เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวและจานบินยังเป็น
เรื่องลึกลับ แปลกประหลาด น่าพิศวง ทุกยุคทุกสมัย
สิ่งมีชีวิตที่เชื่อว่าอาจมีอยู่จริงแต่ยังไม่มีข้อพิสูจน์
หลายคนเชื่อว่ามันมาจากนอกโลก ปัจจุบันก็ยังมีเรื่องราวแปลกประหลาดมากมาย
10.The Starchild skull
The Starchild skull
เป็นหัวกะโหลกศีรษะที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ที่มีรูปร่างผิดปกติ
โดยอ้างว่ากะโหลดนี้พบในอุโมงค์เหมือง ประมาณ 160 กิโลเมตร
ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ ชิวาวา เม็กซิโก
โดยกะโหลกถูกฝังรวมกับโครงกระดูกมนุษย์ธรรมดาที่นอนหงายอยู่ ถูกครอบครองโดย
เรย์และ เมลานี ยอง
ซึ่งภายหลังได้นำมาให้แก่นักมานุษยวิทยากับศัลยแพทย์และจักษุแพทย์ทำการตรวจ
สอบ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1999
ว่าเป็นหัวกะโหลกของมนุษย์ต่างดาวหรือว่าเป็นของคนที่เป็นโรคกันแน่
หัวกะโหลกมีความแปลกตรงที่ว่าเป็นหัวกะโหลกที่ผิดรูปผิดร่าง
กะโหลกขนาดเล็กปกติ สมองมีขนาดใหญ่ของผู้ใหญ่โดยเฉลี่ย ด้านหลังกะโหลกแบน
เป้าตาตรวจพบว่าตาปูดออก
จนมีคนคาดเดาว่าเป็นหัวกะโหลกของมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า
จึงได้เอาไปพิสูจน์กัน ผลการตรวจขั้นต้น
สรุปได้ว่าดีเอ็นเอของกะโหลกใบนั้นไม่ใช่คน
เป็นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพศเมีย
และจนบัดนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเจ้าของกะโหลกศีรษะนี้เป็นตัวอะไร
9. Men in Black ( MIB )
เอ็มไอบี หรือ ชายในชุดดำ
เป็นชาย(มนุษย์ต่างดาว?)ที่มักมากลุ่มดูลึกลับแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำและแว่น
ตาดำหรือหมวกดำผิวกายส่วนใหญ่ผิวคล้ำ มีรถสีดำ
มักจะปรากฏตัวมาภายหลังที่ได้มีการพบเห็นยูเอฟโอหรือมนุษย์ต่างดาวในที่ต่าง
ๆ ซึ่งประจักษ์พยานผู้พบเห็นเหล่านี้ต่างบอกกันว่า
ชายในชุดดำเหล่านี้จะอ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาล
แล้วข่มขู่หรือคุกคามไม่ให้ผู้ที่พบเห็นแพร่งพรายหรือบอกกล่าว
ประสบการณ์ที่พวกเขาได้พบเจอมากับสาธารณะ
โดยพวกเขามักปราฏในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ
และบางรายมีความรู้สึกว่าความทรงจำในช่วงนั้นเลอะเลือนไปด้วยซ้ำ
ซึ่งไม่ทราบสาเหตุว่าทำไม และเรื่องเล่าแบบนี้เริ่มขึ้นในปี 1947
และมีรายงานการปรากฏตัวบ่อยครั้งในปี 1950 และ 1960
ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของชายในชุดดำเหล่านี้
หลายคนเชื่อว่ามาจากกองทัพอากาศสหรัฐหรือซีไออ รวมทั้งจุดประสงค์ของพวกเขา
ซึ่งก็ก่อให้เกิดความเชื่อและทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ เช่น บ้างก็เชื่อว่า
ชายในชุดนำเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดำเนินการบางอย่างเกี่ยวกับ
มนุษย์ต่างดาวในทางลับที่ไม่เปิดเผย หรือบางส่วนก็เชื่อว่า
พวกเขาคือมนุษย์ต่างดาวหรือพวกเดียวกับมนุษย์ต่างดาว เป็นต้น
เรื่องราวของชายในชุดดำนี้ ได้ถูกนำไปสร้างเป็นการ์ตูนทุนต่ำ
และโด่งดังเมื่อได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1997 เรื่อง Men in
Black ที่นำแสดงโดย วิลล์ สมิธ และ ทอมมี่ ลี โจนส์
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากจนต้องมีการสร้างเป็นภาคต่อมาอีกด้วยในปี ค.ศ.
2002 (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
8. Angel Hair
“เส้นผมนางฟ้า”
เป็นปรากฏการณ์ที่หายากและไม่สามารถอธิบายได้
แต่กระนั้นก็มีรายงานไปทั่วโลก
มันมีลักษณะเป็นเส้นคล้ายเส้นไหมหรือใยแมงมุม หรือเยลลี่
และตกลงมาจากท้องฟ้า แต่ถ้าเอื้อมมือไปสัมผัสละก็
มันจะอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา
เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกแต่จะพบบ่อยในแถบอเมริกาเหนือ,
นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, และยุโรปตะวันตก
ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าเกิดจากอะไร หรือแม้กระทั่งมันทำมาจากอะไร
เป็นที่คาดการณ์ว่ามันอาจจะมาจากแมงมุม หรือจากแมลงชักใยชนิดอื่นๆ
หรือเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งสสารที่ตกมาจากยูเอฟโอ
เนื่องจากมันมักจะเกี่ยวข้องกับการพบเห็นยูเอฟโอ เนื่องจากความบอบบางของมัน
จึงเป็นเรื่องยากที่จะเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์
เพราะว่ามันมักจะได้รับการปนเปื้อนจากไอเสียรถยนต์และการสัมผัสของมนุษย์
ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงผลทางเคมีได้
7. Spooklight
แสงไฟภูตผีฮอร์เน็ต
เป็นปรากฏการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นในทางตะวันตกเฉียงใต้พรมแดนระหว่างรัฐมิสซู
รี่และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของโอคลาโฮมา ทางตะวันตกของเมืองเล็กๆ
ของฮอร์เน็ต คนที่พบเห็นแสงไฟนี้รู้จักกันดีในชื่อ “ปีศาจเริงระบำ”
โดยแสงไฟนี้เป็นปริศนามานานกว่าศตวรรษ
มักปรากฏตอนกลางคืนโดยเป็นแสงไฟสีส้มลูกโลกขนาดเท่าลูกเบสบอล
เต้นรำและหมุนลงมาด้วยความเร็วสูง
เคลื่อนที่จากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกแล้วก็เงียบและหายไป
มักปรากฏตามแนวถนนลูกรัง
โดยมันปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19
แต่ตอนนั้นไม่เป็นที่รู้จักกันจนกระทั้งได้รับความสนใจหลังสงครามโลกครั้ง
ที่ 2 ตำนานเหล่านี้มีหลายที่มา
บ้างก็บอกว่าเป็นวิญญาณของหนุ่มสาวที่กำลังหาคนรักกัน
บ้างก็ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากกลุ่มก๊าซในบรรยากาศ
และแน่นอนก็มีเรื่องของยูเอฟโอมาเกี่ยวข้องด้วย
6. Cattle Mutilations
การชำแหละวัวในท้องทุ่ง
เป็นปรากฏการณ์ฆ่าชำแหละโควัวที่อยู่ในสถานการณ์ที่ผิดปกติและลึกลับ
โดยนอกจากวัวแหล้ว ยังมี ม้าวัว แพะ แกะ ที่ถูกฆ่าภายใต้สถานการณ์เดียวกัน
โดยปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่วนมากเกิดขึ้นในที่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในสหรัฐอเมริกา
รัฐโคโลราโด และที่นิวแม็กซิโก
และนอกจากนี้ยังมีรายงานการเกิดปรากฏการณ์นี้บราซิล
โดยจุดเด่นของเหตุการณ์เหล่านี้คือ
สัตว์เหล่านี้ถูกฆ่าจำนวนมากในแต่ละครั้ง
โดยการฆ่าสัตว์เหล่านี้จะเหมือนการผ่าตัดศัลกรรมที่หมดจดโดยที่ท้องเป็นรู
อ้า ทว่าไม่มีเลือดออกและไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ เลย
ลักษณะของศพสัตว์หลายครั้งจะลอกเนื้อออกจนเห็นขากรรไกบนและร่างอย่างเปิดเผย
นอกจากนี้ยังมีตัดเอาอวัยวะสำคัญบางส่วนไป
โดยอวัยวะที่ถูกเฉือนไปนั้นก็ได้แก่ เนื้อบางส่วนตรงคอ อวัยวะสืบพันธุ์ หู
ลิ้น หัวใจ ดวงตา เป็นต้น
โดยใช้วิธีการหรือเครื่องมือที่ทันสมัยและล้ำหน้าเอามากๆดูได้จากแผลผ่าตัด
ที่ใช้ความรุนแรงที่รุนแรงและคมมาก/เครื่องมือแม่นยำสูง
และทิ้งซากสัตว์จำนวนมากไว้ทุ่งร้าง
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดยังพบรังสีตกค้างบริเวณใกล้
ซากวัวและที่น่าประหลาดใจ ก็คือ สัตว์ที่กินของเน่าจะไม่แตะต้องซากวัวเลย
และเมื่อนำผลการตรวจสอบเนื้อเยื่อ พบว่า
ซากสัตว์เหล่านั้นเน่าเปื่อยไวกว่าปกติอย่างที่ควรเป็นถึง 3 เท่า
นอกจากนี้ยังพบระดับความสูงหรือต่ำผิดปกติของวิตามินหรือแร่ธาตุในตัวอย่าง
เนื้อเยื่อที่ปกติไม่พบในสัตว์
ปรากฏการณ์นี้มีรายงานครั้งแรกใกล้อาลาโมซา โคโรราโด ปี 1967
เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับม้าชื่อเลดี้ที่ค้นพบศพของม้าตัวนี้โดยหัวและ
คอถูกลอกและตัดอย่างแม่นยำมาก และไม่มีเลือดหยดบนพื้นสักหยด
เจ้าของเลดี้ยังพบกลิ่นสมุนไพรรุนแรงกลางอากาศที่รอบศพ
ที่เกิดเหตุยังพบรอยประหลาดที่เจาะบนพื้นเหมือนจานบินยูเอฟโอลงจอด
และเช่นเดียวกับกรณีอื่น กลางปี 1970 เหตุการณ์ก็เริ่มมากขึ้น
เพราะมีรายงานปรากฏการณ์เหมือนกันถึง 15 รัฐ ในพื้นที่อื่นๆ มากมายทั่วโลก
และด้วยปรากฏการณ์นี้เองทำให้หลายคนเชื่อว่า
สัตว์เหล่านี้อาจถูกลักพาและผ่าตัดโดยมนุษย์ต่างดาว
อีกทั้งบรรดาชาวไร่และเจ้าของปศุสัตว์ต่างพากันมองเห็น เฮลิคอปเตอร์สีดำ
แสงประหลาดสีส้ม มีขนาดเล็กกว่าจันทร์เต็มดวงครึ่งหนึ่ง
ลอยเรี่ยไปตามบริเวณที่พบซากสัตว์และบริเวณคอกสัตว์
บางคนเห็นเป็นดวงไฟสีน้ำเงิน
5. Greys
เกรย์เป็นชนิดของมนุษย์ต่างดาวที่พบเห็นมาก
ที่สุด และถูกเชื่อมโยงในกรณีมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวมนุษย์เพื่อไปทดลอง
และชอบศึกษาระบบการสืบพันธ์ของมนุษย์ และยังเป็นพวกที่ชอบชำแหละวัวด้วย
โดยลักษณะของมันเหมือนมนุษย์ มีสีของผิวหนังซึ่งมีสีเทา
มีขนาดเล็กและผอมบาง สูงประมาณ 3.5-4.5 ฟุต ผิวสีเทา มีสามหรือสี่นิ้ว
ศีรษะใหญ่ ไม่มีผม ดวงตาสีดำขนาดใหญ่ โพรงจมูกและริมฝีปากเล็ก ไม่มีหู
และมีเลือดสีขาวเหลือง อีกทั้งมันยังมีความสามารถสื่อสารด้วยโทรจิต
จากการศึกษาในปี 1995 พบว่ารายงานเผชิญหน้าระหว่างคนกับเกรย์ชนิดนี้ออกเป็น
ออสเตรเลียประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์, สหรัฐอเมริกา 43 เปอร์เซ็นต์, แคนาดา
90 เปอร์เซ็นต์, บราซิล 67เปอร์เซ็นต์, ยุโรป 20 เปอร์เซ็นต์
และสหราชอานาจักร 12 เปอร์เซ็นต์
อวัยวะไปศึกษาด้วยหลายคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวนี้อาศัยอยู่ในระบบกลุ่มดาว
Zeta Reticuli
นอกจากนี้มีทฤษฏีมากมายเกี่ยวกับตัวมัน โดยหนึ่งในนั้นคือทฤษฏีที่ว่ามันคือมนุษย์ในอนาคตที่วิวัฒนาการจนมีรูปร่างดังกล่าว
4. Star jelly
เยลลี่ สตาร์
เป็นสารลึกลับที่มีลักษณะเหมือนวุ้นตามตำนานเชื่อว่ามันติดมากับฝนดาวตก
โดยสารดังกล่าวมีลักษณะคล้ายเจลาตินสีเทาหรือสีขาวโปร่งแสง ระเหยตัวช้า
ตากรายงานพบว่ามีการพบมายาวนานกลายซตวรรษ ยกตัวอย่างในปี 1950
ในฟิลาเดลเฟีย,เพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเยลลี่รูปโดมเส้นผ่าศูนย์กลางหกฟุต
เมื่อพวกเขาพยายามนำมันกลับก็ปรากฏว่ามันละลาย ไม่มีกลิ่น
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นแรงบันดาลใจกับภาพยนตร์เรื่อง Blob
หลังจากนั้นก็มีรายงานกบัสารนี้ทั่วโลกมีการตรวจสอบก็พบว่าไม่มีดีเอ็นเอ
อะไรในเยลลี่ทั้งสิ้น มีคำอธิบายเกี่ยวกับที่มาของสารนี้มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง ของเหลวของกบหรือคางคกหรือหนอน ราเมือก
และการตกค้างของไซยาโนแบคทีเรีย ปัจจุบันเรื่องของเยลลี่
สตาร์ถูกนำไปสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมากมาย เช่น Invasion Of
The Body Snatchers (1978)
3. Alien abduction
“การลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว”
เป็นเหตุการณ์ที่มีหลายคนอ้างว่าถูกลักพาตัวโดยสิ่งไม่ใช่คนหรือมนุษย์ต่าง
ดาวแล้วพาตัวขึ้นไปยังยานอวกาศหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ในกรณีดังๆ
ก็เช่น Betty and Barney Hill, Antonio Villas Boas, Dionisio
Llancaโดยส่วนมากรูปแบบการลักพาตัวจะเป็นผู้ประสบภัยกำลังขับรถตามลำพังใน
บริเวณรกร่างไร้คน
จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรไล่ตามหลังรถของเขาโดยเป็นแสงไฟหรือจานบิน
แล้วหลังจากนั้นความจำของก็หายไป
โดยจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่องว่างเวลาที่หายไปได้ สัปดาห์ต่อๆ
มาก็เริ่มมีความฝันประหลาดเกี่ยวกับการลักพาตัวมนุษย์ต่างดาว
จนเกิดความเครียดจนต้องไปหาจิตแพทย์ซึ่งคนเหล่านี้มักใช้วิธีการสะกดจิต
เพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้นในการเกิดอะไรขึ้นในช่วงว่างเวลาดังกล่าว
นอกจากนั้นบางกรณีผู้ถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวเหล่านั้นยังมีการปลูกถ่าย
วัตถุทางกายภาพในร่างกายอีกด้วย
โดยวัตถุดังกล่าวมีหลายรูปแบบบางครั้งก็เหมือนที่แท่ง หรือเหรียญขนาดเล็ก
โดยไม่สามารถอธิบายโดยวิทยาศาสตร์ได้ว่ามันคืออะไร
2. Ancient astronauts
“นักบินอวกาศโบราณ”
เป็นทฤษฏีที่ตั้งขึ้นโดยมีแนวคิดว่ามนุษย์โลกในสมัยโบราณได้รับอิทธิพลความ
รู้จากวิทยาการจากมนุษย์ต่างดาว ที่มาเยี่ยมเยือนโลกในอดีต
มนุษย์ต่างดาวดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องในกำเนิด วิวัฒนาการและพัฒนามนุษย์
การช่วยเหลือเทคโนโลยี จนมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและศาสนาของมนุษย์ชาติ
ส่งผลทำให้มนุษย์นับถือมนุษย์ต่างดาวเสมือนกับพระเจ้าไม่ปาน
โดยแนวคิดดังกล่าวเริ่มขึ้นใน 1968 จากหนังสือของ Erich von Däniken
โดยแนวคิดดังกล่าวจะเป็นหลักฐานจากอดีตกาล เช่น
เทพเจ้าโบราณที่รูปร่างหน้าตาเหมือนนก หรือสัตว์เลื้อยคลานแต่ตัวเป็นคน
การค้นพบภาพผาผนังหรือรูปเกาะสลักมนุษย์ต่างดาวเป็นต้น
แต่กระนั้นอย่างไรก็ตามวัตถุหลายชนิดก็ถูกระบุว่ามันเป็นของปลอมหรือไม่ก็
คาดเคลื่อนจากความจริง เหมือนในกรณี
และแนวคิดดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นแนวการแต่งนิยายและภาพยนตร์หลายเรื่อง
1. Solway Firth Spaceman
นักบินอวกาศแห่งโซลเวย์เฟิร์ธ(หรือจะเรียก
ว่านักบินอวกาศโซลเวย์ หรือนักบินอวกาศแห่งคัมเบอร์แลนด์)
หมายถึงภาพที่ถ่ายในปี 1964 โดยฝีมือของจิม
เทอป์เพลตันที่ถ่ายลูกสาวห้าขวบของเขาในพื้นที่บะระห์
ซึ่งสามารถมองเห็นโซลเวย์เฟิร์ธ คัมเบอร์แลนด์
ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างสก็อตและอังกฤษ
โดยเขาถ่ายรูปสาวของเขาสามใบในลักษณะนั่งบนพื้นหญ้า
และเมื่อภาพออกมาเขาก็ตกใจเมื่อภาพมีสิ่งแปลกปลอมอะไรบางอย่างเหมือนนักบิน
อวกาศตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหลังศีรษะลูกสาวของเขา
โดยนักบินอวกาศสวมชุดสีขาวแล้วหมวกแปลกๆ เหมือนหมวกกันน็อกอยู่บนหัว
ทั้งที่เขายืนยันว่าตอนที่ถ่ายรูปดังกล่าวบริเวณโดยรอบไม่มีคนอื่นอยู่ใกล้
เลย
เมื่อภาพถ่ายถูกเผยแพร่ปรากฏว่ารัฐบาลที่มีอำนาจสูงสุดของประเทศพยายามขอ
ร้องจิมว่ารูปถ่ายนี้เป็นของปลอมหากแต่เขาปฏิเสธ
และภาพดังกล่าวได้ให้นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพมาปรากฏว่ามัน
เป็นภาพถ่ายมนุษย์ต่างดาวของจริง
ปัจจุบันภาพดังกล่าวยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของจริงหรือปลอมและเป็น
ภาพถ่ายมนุษย์ต่างดาวที่ดีที่สุดในเวลานี้
ที่มา : http://board.banrasdr.com/showthread.php?tid=19736
http://writer.dek-d.com/cammy/writer/viewlongc.php?id=486572&chapter=313
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น