วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

ถ้อยแถลง UFOs บุกจู่โจมศูนย์ปฎิบัติการ สงครามนิวเคลียร์





   ถ้อยแถลง UFOs บุกจู่โจมศูนย์ปฎิบัติการ สงครามนิวเคลียร์
คำอธิบาย

เชื่อว่าผู้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ UFOs ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
มีแนวคิดอยู่ 3 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มที่เชื่อว่า UFOs มีอยู่จริง และมีปรากฎให้เห็น ในรูปแบบหนึ่งรูปแบบใด
2. กลุ่มที่เชื่อว่า UFOs มีความเป็นไปได้ แต่ยังไม่มั่นใจต่อพยานหลักฐานที่ปรากฎ
3.กลุ่มที่เชื่อว่า UFOs เป็นสิ่งหลอกลวง สร้างเรื่องเท็จโดยมนุษย์

รายงานพิเศษชุดนี้ เรียบเรียงขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ ต้องการให้เป็นฐานข้อมูล
ความรู้ เนื่องจากกรณีนี้เป็นถ้อยแถลง ประกาศอย่างเป็นทางการว่า
เอกสารรัฐบาลอเมริกา จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะเป็นการเปิดเผย
จากผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ ปัจจุบันได้เกษียณแล้ว
โดยจะยืนยันเพื่อให้หายสงสัย ในความเป็นจริง การจู่โจมของ
UFOs ที่บริเวณ ศูนย์ปฎิบัติการสงครามนิวเคลียร์

ดังนั้นเหตุผลสำคัญ คือ ผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกย่อมมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ รับทราบ
ในกรณีดังกล่าว ว่า มีความเป็นจริงเพียงใด ที่อาจมีสิ่งที่อยู่ในโลกอื่น
กำลังคุกคามโลก โดยข้อมูลถูกปิดบังไว้
และอย่างน้อยผู้ที่ออกถ้อยแถลง มีตัวตนจริง มีประวัติและมีสถานะ
อยู่ในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้อง คือ ฐานขีปนาวุธ สามารถตรวจสอบได้

อย่างไรก็ตาม รายงานชิ้นนี้ จัดทำขึ้น ไม่มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาให้เกิด
ความเชื่อ หรือไม่เชื่อใดๆ เกี่ยวกับ UFOs จึงขอให้ผู้อ่านใช้
ดุลยพินิจ ตัดสินด้วยตนเองต่อข้อมูลดังกล่าวนี้

ในกรณีต้องการใช้ข้อมูลนี้เพื่อเผยแพร่
กรุณานำคำอธิบายนี้ไปแสดงด้วย







Press Conference
27 September 2010
UFOs At Nuclear Weapon Bases
ผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยโดยการแถลงข่าว
อนึ่ง ถ้อยแถลงดังกล่าวนี้ มีความยาว 1 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อถอดความแล้วมี
ความยาว 25 หน้า (A-4) โดยบางช่วงมีเนื้อหาประโยคพูดที่ซ้ำ หรือมีการขยาย
ความมากเกินไป หรือบางช่วงมีสาระสำคัญน้อยเกินไป ผู้เรียบเรียงจึงขออนุญาต
ตัดทอนให้เนื้อหากระชับขึ้น เพื่อให้เข้าใจง่าย และปรับแก้ไขสรรพนาม ทั้งนี้ยัง
คงประเด็นถ้อยแถลงที่ มีความสำคัญไว้

ถ้อยแถลงจาก ผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ
----------------------------------------------------

หน้าที่ 1
Robert L. Hastings - ผู้นำการแถลงข่าว
Robert Salas (former USAF nuclear missile launch officer)
Dwynne Arneson
(USAF Lt.Col. Ret., communications center officer-in-charge)

หน้่าที่ 2
Robert Jamison (former USAF nuclear missile targeting officer)
Charles I. Halt (USAF Col. Ret., former deputy base commander)

หน้าที่ 3
Jerome Nelson (former USAF nuclear missile launch officer)
Patrick McDonough (former USAF nuclear missile site geodetic surveyor)
Bruce Fenstermacher (former USAF nuclear missile launch officer)

หน้าที่ 4
Robert Salas - กล่าวสรุป
(former USAF nuclear missile launch officer)

หมายเหตุ :
ลิงค์ที่แสดงเครื่องหมายนี้ (*XXXXXX*) เป็นการขยายข้อมูลโดยผู้เรียบเรียง
Robert Hastings - ผู้ทำหน้าที่พิธีกร นำการแถลงข่าว
20
Robert L. Hastings

บ้านเกิดพำนักใกล้กับ ศูนย์ปฎิบัติการสงครามนิวเคลียร์ ที่ Sandia ใน New
Mexico บิดารับราชการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในตำแหน่งจ่าอาวุโส จากเหตุ
ดังกล่าวที่อยู่ใกล้กับ ฐานขีปนาวุธ จึงได้เห็นปรากฎการณ์ UFOs เมื่อ ปี 1967
(*ประวัติอย่างเป็นทางการของ Robert Hastings*)

การศึกษาจบด้านช่างภาพ ที่ Ohio University และทำงานที่ Northern Illinois
University เป็นผู้บรรยายและวิจารณ์ เรื่อง UFOs ในสถาบันระดับวิทยาลัย
และมหาวิทยาลัยกว่า 500 แห่ง มีผลงานด้านหนังสือ UFOs เฉลี่ยปีละ 25 เล่ม
เป็นผู้นำการเปิดเผย ประกาศอย่างเป็นทางการว่า

เอกสารรัฐบาลอเมริกาจะไม่เป็นความลับ อีกต่อไป เพราะเป็นการเปิดเผย จาก
ผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐ ปัจจุบันได้เกษียนแล้วนั้น โดยจะยืนยันเพื่อ
ให้หายสงสัย ว่าความเป็นจริง การจู่โจมของ UFOs ที่บริเวณศูนย์ปฎิบัติการ
สงครามนิวเคลียร์

หากกล่าวถึง UFOs ผู้เคยพบเห็น มักอธิบายว่าเป็นอากาศยาน รูปร่างคล้าย
จานกลมแบน หรือทรงกระบอก หรือทรงกลม โดยเป็นวัตถุที่มีประสิทธิภาพ
สามารถ บินโฉบเฉี่ยวด้วย ความเร็วสูง แต่เงียบอย่างไม่มีที่ติ ควบคู่กัน

มากกว่า 37 ปีที่ผ่านมา มีการไต่ถามและ สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการจากผู้คน
ในพื้นที่หรือทหารที่ได้เกษียนแล้ว มากกว่า 120 ราย ทั้งหมดไม่ว่าใครรายงาน
ว่า เห็น UFOs ต่อเนื่องมากกว่า 1 ครั้ง ในบริเวณนั้น คือ

บริเวณฐานยิงนิวเคลียร์ บริเวณคลังเก็บอาวุธ สงครามนิวเคลียร์ และสนามทด
สอบสงครามนิวเคลียร์ ในเนวาด้า และบริเวณทดลองยิงนิวเคลียร์ สู่บรรยากาศ
โลกที่มหาสมุทรแปซิฟิค

ในยุคอดีต ผมเชื่อว่า ทุกท่านเชื่อว่า โลกของเราได้ถูกผู้ที่มาโลกอื่น เริ่มต้นการ
เยี่ยมเยียนขึ้นแล้ว ใครหรืออะไรก็ตาม มีเหตุผลสนใจ กองทัพนิวเคลียร์ของเรา
ซึ่งได้เริ่มต้นจากการจบลงของ สงครามโลกครั้งที่ 2

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นเรื่องการหยุดทำงานของขีปนาวุธ เป็นข้อวินิจฉัยของผม
เป็นข้อวินิจฉัยของท่านทั้งหลาย อาจเหตุจากผู้ที่อยู่บนอากาศยาน ส่งสัญญาน
มาจากวอชิงตัน จากมอสโค หรือ จากที่อื่น ทั้งหมดนั้น เปรียบเสมือนเล่นกับไฟ
เป็นการคุมคาม ขู่เข็ญ โดยใช้ประโยชน์จากอาวุธ นิวเคลียร์ เพื่อมีศักยภาพ
ควบคุมมนุษย์ชาติ และเพื่อควบคุม ความมั่นคงสภาพแวดล้อมโลก
Robert Salas
Robert Salas
(former USAF nuclear missile launch officer):


ปี ค.ศ.1967 ผมมีตำแหน่งเป็นเรืออากาศโท ในกองทัพอากาศ ที่ Malmstrom
Air Force Base ใน Montana เป็นเจ้าหน้าที่ ปฎิบัติการยิงขีปนาวุธ และในวันที
24 มีนาคม ปี 1967 ผมรับผิดชอบ Oscar Flight (*แผนที่กลุ่มฐานขีปนาวุธ*)
ซึ่งเป็นแคปซูลที่มีความมั่นคงแข็งแรงอยู่ใต้ดิน ลึกลงไป ราว 60 ฟุต โดยมีหน่วย
รักษาความปลอดภัยอยู่ด้านบน เรียกว่า Flight Security Controller

ในวันที่ 24 เดือนมีนาคม ผมได้รับโทรศัพท์ จากหน่วยรักษาความปลอดภัยอยู่
ด้านบนแคปซูล ว่าสังเกตเห็นแสงแปลกๆ เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เหมือนวิ่งหลบ
ไปหลบมาบนท้องฟ้า จึงต้องการรายงานให้ทราบไว้

ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรรายงาน เพราะรู้สึกน่ากังวล คุณต้องมีความเข้าใจว่า
เรามีหน้าที่ปกป้อง ฐานยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ และเราต้องรายงานเป็นโดยปกติ
เป็นความสำคัญต่อหน้าที่รับผิดชอบ ทุกเรื่องจะนิ่งเฉยไม่ได้

หลังจากนั้นราว 5 นาที เขาโทรศัพท์กลับมาอีก ด้วยเสียงตะโกนว่า “เห็นวัตถุ
แล้ว มีสีแดง แวววาว บินโฉบเฉี่ยวด้านหน้าประตูทางเข้า เส้นผ่าศูนย์กลางราว
30 ฟุต เขาไม่สามารถ บอกรายละเอียดของวัตถุได้มากไปกว่านี้ เพราะมันเต้น
เป็นจังหวะน่าตกใจ” โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นด้วยกันทั้งหมด

ผมคิดและพูดบางอย่างว่า “แน่ใจน่ะ ว่าเข้ามาในเขตภายในรั้วของเรา” ผมจึง
ต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาผม คือ เรืออากาศโท Fred Meiwald ให้รับทราบ

ขีปนาวุธของเราก่อนยิงออกไป จะถูกกำหนดไว้ที่เงื่อนไข No-Go หรือเรียกว่า Unlaunchable เป็นพื้นฐานสำคัญเพื่อให้ไร้ความสามารถ ซึ่งถ้าวัตถุที่บินโฉบ
เฉี่ยวเหนือฐานยิงขีปนาวุธของเรา อาจเข้าควบคุมระบบได้ง่าย นั้นคือจุดที่เป็น
ระเบียบและแนวทางป้องกัน
Malmstrom Air Force Base ใน Montana
เขารายงานเหตุการณ์รับคำสั่ง รักษาความปลอดภัย ระดับ Light หมายความ
พร้อมรับมือจากการจู่โจม ที่อะไรบ้างอย่างอาจเข้าควบคุมระบบ ฐานยิงขีปนาวุธ
ของเรา ดังนั้นผมจึงเรียกหน่วย รักษาความปลอดภัยกลับมาอยู่ภายในชั้นบน
และส่งชุดปฎิบัติการเฉพาะกิจไปด้านนอก

ที่จุดนี้ชุดปฎิบัติการเฉพาะกิจ แจ้งกลับมาว่าเห็นวัตถุอยู่ด้านซ้าย มีความเร็วสูง
มาก แต่เงียบไม่มีเสียงรบกวนใดๆออกมา หน่วยรักษาความปลอดภัย จึงออกไป
ตรวจสอบและรายงานกลับมาทางวิทยุติดต่อว่า เห็นวัตถุนั้้นอีก แต่ต่อมาเสียง
วิทยุติดต่อขาดหายไป ทั้งหมดของเหตุการณ์จึงยุติลงที่จุดนี้

เราจึง Restart เสียงเตือนระบบความปลอดภัยใหม่ แต่ระบบขีปนาวุธยังหยุดนิ่ง
ไม่ตอบสนอง เราต้องแจ้งทีมด้านบำรุงรักษาเพื่อเข้ามาตรวจสอบ เพื่อ Backup
ระบบเตือนภัยใหม่

โดยหลักเกณฑ์เรามีอุปกรณ์เครื่องมือ และแนวทางปฎิบัติ หากระบบควบคุมเกิด
ล้มเหลว ผมต้องตอกย้ำความสำคัญ เรื่องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ใน
ชั้นบนว่า จะไม่มีอำนาจในระบบควบคุมเหนือไปกว่าน้ัน เพราะชั้นบนไม่มีเครื่องมือ
หรืออุปกรณ์ใดๆ และไม่มีทักษะใดๆ ในเรื่องปิดระบบการเตรียมพร้อมของฐานยิง
ขีปนาวุธของเรา ทั้งหมดของระบบอยู่ในชั้นใต้ดิน
ลักษณะทั่วไปด้านบนของฐานขีปนาวุธ
ไซโลเก็บขีปนาวุธอยู่ด้านล่างใต้ดิน
เช้าวันถัดมา ผมรายงานกลับไปยัง ผู้บังคับบัญชาว่า ผมเสียใจที่มีรายงานถึงฝูง
บินที่ฐาน Malmstrom เหมือนเป็นการรายงาน เพียงบนกระดาษเปล่า เพราะไม่
สามารถอธิบายเหตุกาณ์ให้กระจ่างได้เลย

ผมได้ถามผู้บังคับบัญชาว่า เจาะจงได้หรือไม่ว่า มีปฎิบัติการพิเศษของกองทัพ
อากาศ เขาตอบว่ามั่นใจว่า ไม่ใช่การปฎิบัติการพิเศษ ของกองทัพอากาศ และ
เราทั้งหมดเป็นสมาชิก ของกองทัพอากาศ จงค้นหาความจริงกันเพียงในห้อง
เขาสั่งการว่า “ตามระเบียบเราจะไม่มีการพูดในเรื่องนี้อีกต่อไป”

กระทั่งผมต้องแสดงอาการใบ้ ไม่เปิดเผยเอกสารใดๆเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ
แต่นั้นมา นี้คือ สิ่งที่ไม่สามารถพูดได้ จนถึง ปี 1994 เกิดมีข้อความไม่กี่บรรทัด
ในหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ Above Top Secret โดย Timothy Good ในหน้่าที่ 301
แสดงข้อความสั้นๆว่า

ฐานยิงขีปนาวุธ ถูกสั่งปิดการเตรียมพร้อมโดย UFOs ที่อยู่เหนือฐานบิน ในจุดนี้
ผมได้รับความช่วยเหลือจาก Mr. James Klotz เป็นผู้สอบสวนเรื่องราว เราต้อง
การเรียกร้อง โดยส่งเอกสารไปยังกองทัพอากาศ ว่า

เหตุใดในเรื่อง ฐานยิงขีปนาวุธถูกสั่งปิด การเตรียมพร้อม ไม่กล่าวพาดพิงถึง
UFOs เราต้องการให้กองทัพอากาศ ประกาศอย่างเป็นทางการ และมิให้เรื่อง
นี้เป็นความลับอีกต่อไป
ระบบควบคุมขีปนาวุธ ทั้งหมดอยู่ในชั้นใต้ดิน
Dwynne Arneson
Dwynne Arneson
(USAF Lt.Col. Ret., communications center officer-in-charge):


หลังจากรับปริญญา ด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ผมเข้าทำงานในกองทัพอากาศ
รับผิดชอบงาน การสื่อสารด้านอิเล็คโทรนิก เป็นเวลา 26 ปี โดยครอบคลุมภาค
พื้นเหนือโลกทั้งหมด ความสำคัญคือ

ต้องควบคุมแลกเปลี่ยน ด้วยความลับสุดยอด ด้วยรหัสลับ พิเศษ มีลักษณะแตก
ต่างจากข้อมูลทั่วๆไป เป็นกลุ่มที่ต้องมี ความสามารถพิเศษในการถอดรหัส ซึ่ง
ทั้งหมดต้องแจ่มแจ้ง แหลมคม สมบูรณ์

กลับไป ปี 1967 ผมต้องดูแลศูนย์กลางการสื่อสารด้านอิเล็คโทรนิก เป็นปีที่ 20
ของตำแหน่ง Air Division ที่ Great Falls ใน Montana รับผิดชอบเป็นผู้เก็บ
รักษารหัสลับ ผมต้องรักษาความลับ ควบคุมสำนักงานในแผนกและผมจะผ่าน
เข้าออกบริเวณฐานยิงนิวเคลียร์

ในเดือ มีนาคม มีความผิดปกติ ด้วยผมเคลียร์ล้างข้อมูลคำสั่งระบบ ที่ส่งเข้ามา
ยังศูนย์กลาง การสื่อสารด้านอิเล็คโทรนิกอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานเบื้องต้น
ของระบบได้เคลียร์หมดจดแล้ว ตามที่ Robert Salas บอกไว้แต่ต้น

แต่ UFOs ยังสามารถปิดระบบ Several ของขีปนาวุธ ในไซโลที่ Montana ได้
ผมไม่เคยทราบเริ่องประเภท ของขีปนาวุธ และไม่เคยรู้ เรื่อง Oscar Flight และ
Echo Flight (ซึ่งทั้ง 2 แห่งคือฐานยิงขีปนาวุธ) ดังนั้นจึงไม่สามารถบรรยายใน
รายละเอียด ข้อเท็จจริงของขีปนาวุธ ที่ปิดระบบการเตรียมพร้อมด้วยตัวเองได้

จากนั้น ในกลางปี 1970 และราวๆ ปี 1975 ผมได้เป็นผู้บัญชาการสถานีเรดาห์
ใน Maine ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ ฐานทัพอากาศ Loring เป็นบางครั้งบางคราวเจ้าหน้าที่
รักษาความปลอดภัยของผม ต้องเปลี่ยนแปลง รหัสตำรวจรักษาความปลอดภัย
และสองครั้งที่บอกแจ้งให้ผมเพิกถอน เพราะเขาเห็น UFOs บินอยู่เหนือบริเวณ
ศูนย์สงครามนิวเคลียร์ และที่ ฐานทัพอากาศ Loring ซึ่งมีฐานของเครื่องบินทิ้ง
ระเบิด
Loring คือฐานทัพอากาศ ใน Maine ซึ่งมีฝูงบินทิ้งระเบิด B-52 ในยุคนั้น
ผมไม่ทราบอะไรในรายละเอียดเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง ผมไม่ทราบเรื่องอาวุธนิวเคลียร์
ที่เสียหายหรือเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสี ผมไม่เคยเห็นรายงานนั้น ผมจึงไม่สามารถ
พูดได้

หลังจากผมเกษียณจาก ฐานทัพอากาศ ผมได้ไปทำงานให้กับ Boeing เกี่ยวกับ
Computer systems analyst และ Robert Salas ไม่เคยเอ่ยอะไรในเรื่องเหล่านี้
แต่ครั้นหนึ่ง ขณะผมมีตำแหน่ง เป็น Supervisors ที่ Boeing ได้พบกับ Robert
Kaminski ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว เขาเป็นวิศวกร ถูกคัดเลือกโดย Boeing ให้
ออกไปไต่สวนหาความจริง เรื่อง UFOs ปิดระบบ Several ของขีปนาวุธ

เขาพักอาศัยอยู่ใกล้ๆกับผมที่ รัฐ Washington เรามักจะพบกันเนืองๆในวันเสาร์ เพื่อโต้แย้งกัน เรื่อง UFOs และเรื่องอื่นๆ และเขาพูดว่า

“มันถูกต้องสมบูรณ์ และมันจะไม่ปิดระบบ ได้ด้วยตัวเอง” ในขณะนั้นเขาพูดได้
แค่ครึ่งทาง จนกระทั่งมีการไต่สวนความจริงแล้ว กองทัพอากาศ ส่งเอกสารให้
กับ Boeing ด้วยข้อความว่า “จงหยุดไต่สวนและไม่ต้องทำ” เพราะเป็นการทำซ้ำ
และไม่ต้องส่งรายงานกลับมายัง กองทัพอากาศ

เขาบอกกับผมว่า เรื่องนี้เป็นการพูดแบบส่วนตัว โดยมีความแตกต่างกัน 2-3
เหตุผลและทั้งหมดนั้น ไม่มีความลังเลใจ ส่วนสุดท้ายคือ “เชื่อหรือไม่ว่าผมศึกษา
เรื่อง UFOs มามากว่า 60 ปีแล้ว” และผมเชื่อมั่นว่ามีใครบางคนได้ทดลองส่งข้อ
ความรหัสลับนั้น และถ้าผมทราบว่าใครเป็นคนกระทำ คงไม่ได้อยู่ตรงนี้


Robert Jamison
Robert Jamison
(former USAF nuclear missile targeting officer):


ระหว่างมกราคม 1965 - ตุลาคม 1967 ผมทำงานที่ฐานทัพอากาศ Malmstrom
รับผิดชอบทีมนาวิกโยธิน ที่มีหน้าที่ประจัญบาน ด้านขีปนาวุธ หน้่าที่หลักคือยิง ขีปนาวุธให้ถูกตรงเป้าหมาย

ดังนั้นบางครั้ง เราต้องส่งคนออกไปตลอดเวลา เพื่อ Restart ในกรณีนี้ ขีปนาวุธ
ทุกแบบจะหยุดการเตรียมพร้อม และเราต้อง Restart ใหม่เพื่อยืนยันข้อมูลใหม่
ในเดือนมีนาคม 1967 ผมอยู่ในสถานการณ์เตรียมพร้อม สำหรับการยิงขีปนาวุธ

ช่วงนั้นเป็นเวลาค่ำ ผมจะได้รับโทรศัพท์แจ้งจากหัวหน้าควบคุมว่า “ขีปนาวุธ
ที่ Oscar Flight หยุดการเตรียมพร้อม จะต้องออกไป Restart มัน” ผมจึงแจ้งชุด
ปฎิบัติการและกำลังออกไป ณ จุดปฎิบัติการ

จึงถือโอกาสสนทนากันตามสมควร มีผู้ถามผมว่า “คุณรู้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น ?”
ผมตอบว่า “ไม่ ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไร” เขาพูดต่อขึ้นว่า “ ดีล่ะ UFOs กำลังมอง
อยู่เหนือพื้นที่ Lewistown ,Montana เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นเหนือพื้นที่ของ Roy, Montana ”

แต่เหนือพื้นดินขึ้นไปของเมือง Lewistown และ Roy, Montana ใต้ดินตรงกลาง
ระหว่างเมืองทั้งสองคือ Oscar Flight ทุกครั้งที่ UFOs มาปรากฎ ก็จะอยู่เหนือ
เมืองทั้งสองดังกล่าว และทั้งหมดของ Oscar Flight ชะงักลง ดังนั้นจึงมีความ
แปลกประหลาดมาก
เมือง Lewistown ใน Montana
20
เมื่อหัวหน้าควบคุม ยืนยันว่าเรียบร้อยแล้ว ผมจึงมองไปที่ แผงแสดงสถานะของ
ระบบ ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะเป็นแผนผังของกลุ่มต่างๆในระบบ ผมสังเกต
เห็นทุกอย่างแสดงเป็นสีเขียว ยกเว้นอยู่มุมหนึ่งมีแสงเตือเป็นสีแดง ซึ่งเป็นพื้นที่
ของ Oscar Flight ทั้งหมดแสดง หยุดการเตรียมพร้อม

ก่อนหน้านี้ราวสัปดาห์มาแล้ว มี UFOs มาสังเกตการณ์เหนือ Echo Flight และ
เป็นเวลาเดียวกัน ที่ขีปนาวุธทั้งหมดของ Echo Flight หยุดการเตรียมพร้อม
นี่เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นก่อนมาแล้ว

ในความเห็นส่วนตัว ผมไม่เคยทราบว่าฐานยิง ขีปนาวุธใดๆที่ จะหยุดการเตรียม
พร้อมๆกันสองที่ในเวลาเดียวกัน หรือโดยลำพังในกลุ่มที่มีฐานนับสิบ ผมรับรู้ได้
ยินเรื่อง UFOs ที่หลายคน ในแผนกควบคุมกล่าวถึง

ที่ผ่านมาในคราวก่อนนั้น UFOs สังเกตการณ์เหนือฟากฟ้าของ Belt, Montana
และในเมืองอื่นๆ ของ Montana และเมืองเล็กๆทางตะวันออกของ Malmstrom
เห็นมันเข้าไปหุบผา

ในทันที่ทันใด มีคำเตือนจากกองทัพอากาศ ว่าเราได้ส่งชุดสืบสวนเข้าไปหาข้อ
มูลมีความแน่ใจ พอสมควรว่า ที่นั่นในบริเวณก้นหุบผา พบ UFOs อย่างชัดแจ้ง
“เป็นคำสั่งที่ออกมาด่วนยิ่งกว่าฉุกเฉิก” โดยมีการจัดเตรียมห้องเพื่อระดมความ
คิดเห็นจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่

ผมได้เข้าไปในห้องนั่นด้วย ห้องนั้นมีคนมากมายเบียดเสียด ผมได้ยินเสียงวิทยุ
ติดต่อจากชุดภาคสนามที่ออกไปค้นหา ทั่วบริเวณ ในก้นหุบผา และทุกๆสิ่ง
แต่ผมไม่ใกล้พอ ที่จะได้ยินว่ามีอะไรเกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ลักษณะพื้นที่รอบนอกของเมือง Belt, Montana
ผมอยู่ที่นั้นพร้อมกับนายทหารยศสิบเอกคนอื่น ผมรู้จักเขาเพราะบางครั้งเคยฟัง
บรรยายสรุปผลซึ่งกันและกัน เขาพูดว่า “ดูท่าทาง เรามีปัญหา” เราพบ UFOs
ในพื้นที่ฐานยิงขีปนาวุธมันต้องยุ่งแน่

ถ้าเราเห็น UFOs เราจะไม่เป็นผู้ลงมือ แต่จะเข้าไปให้ใกล้ เพื่อควบคุมไว้ก่อน
ดังนั้นเราต้องใช้ ชุดควบคุมปฎิบัติการและแจ้ง ให้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ถ้าพวก
เราในฐานบุกออกไป สามารถหยุดและทำอะไร เพื่อให้มันถอยห่างออกไปจาก
ฐาน โดยทั้งหมดใช้การติดต่อทางวิทยุสื่อสาร

ชุดควบคุมรอการเพิ่มเติมคำแนะนำ ว่าขณะนี้เราอยู่ในฐาน เรากำลังจะไปทำงาน
ข้างนอก ผมพูดกับตนเองและทีมงาน มีเป้าหมายเป็นเส้นชัยออกไปโดยไม่เป็น
ผู้ลงมือ แต่จะเข้าใกล้และจับตัว ทั้งหมดเมื่อออกไปสู่สนามข้างนอก ให้ติดอาวุธ
เพื่ิอลาดตระเวณ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งปกติ

ผมรอคอยเวลา ราวๆชั่วโมงครึ่ง เราพร้อมที่จะออกไป จึงมีสัญญานติดต่อทาง
วิทยุว่า “ตกลง คุณออกไปได้เดี๋ยวนี้เลย” ดังนั้นผมและทีมทั้งหมดของผมออกไป
สนามด้านนอกพื้นที่ Oscar Flight อย่างไม่น่ายินดีนัก ซึ่งอยู่ห่างไป 120 ไมล์
จากฐานของเรา

ถ้ากองทัพอากาศมีความพัวพัน ในเรื่องนี้ มันคงไม่ต่างจากออกไปนั่งรถเล่น
แต่ไม่ทางเลือกเราต้องออกไปที่ Oscar Flight และเราต้องไป Restart มัน ไม่
3-4 ของหัวรบขีปนาวุธ มันเป็นที่ที่ Robert Salas ประจำการอยู่ในเวลานั้น

เราประสบความสำเร็จโดยได้ Restart 3-4 ของหัวรบขีปนาวุธ ผมไม่เห็นสิ่งผิด
ปกติในสนาม แต่เมื่อผมกลับออกมา เราคิดถึงเรื่องต้องกลับไป รายงานสรุปผล
สิ่งแรกที่ผมคิด “เกิดอะไรขึ้นกับขีปนาวุธเป็นทิวแถว ?"

ต่อมาหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ผมได้ยินเรื่อง UFOs มีการเห็นที่ Indis Flight
ทำให้บางส่วน ถูกปิดระบบ ผมคิดว่า ราว 4-5 ของหัวรบขีปนาวุธ ถูกปิดระบบที่
Indis Flight ซึ่ง UFOs อยู่เหนือพื้นที่นั้น แม้ปิดระบบไม่ครบถ้วนและผมก็ออกไป Restart อย่างน้อย 2 หัว ผมต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องให้ UFOs จะไม่เป็นความ
ลับ แต่ไม่มีอะไร เกิดขึ้นจากกองทัพ ตอนนี้ผมจึงต้องหาหนทางอื่น
Charles I. Halt
Charles I. Halt
(USAF Col. Ret., former deputy base commander):


ผมเกษียณจากกองทัพอากาศ ที่ Colonel ในปี 1991 ระหว่างที่รับราชการทหาร
ผมรับผิดชอบ บัญชาการก่อสร้างฐานขนาดใหญ่ 2 แห่ง และช่วงเวลาที่ปลด
เกษียณแล้ว ผมยังประจำอยู่ในแผนตรวจสอบทั่วไปของกองทัพ เพื่อตรวจสอบ
งานทั้งหมดที่เอกชน เข้ามาปฎิบัติงานให้กับกองทัพ

ปี 1980 กระทรวงกลาโหม ได้มอบหน้าที่ใหม่ให้ รับผิดชอบ รักษาการบัญชาการ
ฐาน RAF Bentwaters ซึ่งเป็นฐานที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง ในด้านยุทธวิธีการบินของ
โลกซึ่งเป็นโครงข่ายกัน ระหว่าง RAF Woodbridge และ Bentwaters ในอังกฤษ

เวลาเช้ามืดเดือนธันวาคม ปี 1980 เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยหลาย
นายของผม ตรวจพบพบแสง จากชายป่าด้านตะวันออกของ Anglia ซึ่งเป็นด้าน
นอกของประตูด้านหลังฐาน RAF Woodbridge

สายตรวจ 3 นาย และนายจ่านอกราชการ นายทหารอากาศอีก 2 นาย ถูกส่ง
ออกไปดูในป่าดังกล่าว และได้เข้าใกล้ยานบิน รายงานระบุว่า เป็นลักษณะสาม
เหลี่ยมมีขนาดด้านละ 3 เมตร เคลือบด้วยเกล็ดโลหะสีมืด มีเครื่องหมายแปลก
ประหลาด

การสำรวจในช่วงเวลานั้น ทำด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบ หลังจากนั้นหาย
ไปด้วยความเร็วสูง ในขั้นต้น ผมตระหนักดีว่า ไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด นอก
จากคำบอกเล่าจากลักษณะแสง และผมแน่ใจในในเหตุผลการชี้แจง
RAF Woodbridge คือฐานบินทิ้งระเบิดของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ
ฐานยิงขีปนาวุธใน บรเวณ RAF Woodbridge
สองคืนที่ผ่านมา ที่งานปาร์ตี้คริสมาสต์ ของครอบครัวต้องถูกขัดจังหวะ เพราะ
รักษาการผู้บัญชาการบิน ตำรวจรักษาความปลอดภัยฝูงเครื่องบิน Lieutenant Bruce ในอังกฤษ ได้เข้ามาพบผมที่ฐานบัญชาการ ด้วยสีหน้าซีดเผือก และ
พูดว่า “มันกลับมา” ผมถามกลับ “อะไรกลับมา?” เขากล่าวตอบ ว่า “UFOs”

เราทั้งคู่อึ้งไปชั่วขณะ ซึ่งในจุดนี้ผมไม่เชื่อเลย ที่ผ่านมาเจ้านายผมได้มีข้อแนะนำ
ไว้ว่า ภาระกิจที่ผมรับผิดชอบเป็นงานหนัก และถ้าเกิดมีการไต่สวนใดๆ จะเป็น
เรื่องโชคไม่ดี

ผมทบทวนสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล เพื่อหาข้อเท็จจริง จากบันทึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รักษาความปลอดภัย มีความน่าเสียดายที่ อุปกรณ์ APN-27 เครื่องตรวจวัด
กัมมันตภาพรังสี และกล้องถ่ายภาพ ของเจ้าหน้าที่ภายหลังเสียหายหมด

ผมมีเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็ก ที่นำติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยในขณะที่ผมทำ
หน้าที่ ผมจึงบันทึกข้อมูลเรื่องเรื่องของที่นี้ไว้ ผมต้องตรวจสอบเชิงลึกคืบคลาน
เข้าไปที่ละนิ้วในใกล้ที่สุด ราว 6-8 ฟุต จากด้านข้่าง เพื่อหาค่ารังสีที่อาจมีมาก
กว่าปกติ 8-9 เท่า ซึ่งยังไม่เป็นผลอันตรายสำหรับบางคน

ผมจึงพยายามหาหลักฐาน เศษละเอียดของกิ่งไม้ที่หักร่วง อยู่รอบๆบริเวณนั้น
เป็นสิ่งที่คิดไว้เพื่อให้เกิดความครบถ้วน โดยจะปิดป่าในบริเวณนั้น เพื่ิอค้นหา
บางสิ่งที่ยังตกหล่นอยู่ มันเป็นหนทางที่ดี อาจมองเห็นด้วยตาด้วยความแจ่มชัด
หรือในมืดมน มันอาจส่งสัญญาน หรือส่องแสงกระพริบๆได้ จากการปลดปล่อย
พลังงานบางอย่างจากความร้อนของ โลหะ หรือของเหลวที่หยดออกมา

มันเป็นความเงียบครอบคลุมไปทั่วแนวป่านั้น เราหลีกเลี่ยงที่จะมีการติดต่อใดๆ
มีแต่การผงกศีรษะกัน เราต้องลองเข้าใกล้ที่สุด จะไม่ล่าถอยออกมาจากที่นั่น
จากแนวป่านั้น ท่ามกลางความเงียบ มีรอยปะทุจากวัตถุสีขาว 5 จุด
ฐานยิงขีปนาวุธใน บรเวณ RAF Woodbridge
สภาพป่ารอบๆ RAF Woodbridge
แต่หนึ่งในทีมค้นหาได้สังเกตเห็นวัตถุบางอย่างุในท้องฟ้าทางทิศเหนือ มันเป็น
กลุ่ม 3-4 จุดมีสีสดใส และเปลี่ยนสีบริเวณขอบที่เป็นรูปไข่โดยรอบ เคลื่อนที่ไป
ด้วยความเร็วสูงมาก มีการหักเลี้ยวเป็นมุมสามเหลี่ยม คล้ายกับเส้นวิ่งขึ้นล ที่เรา
เขียนบนแผ่นกราฟ

ขณะที่รอคอย มีบางคนสังเกตเห็นอย่างอื่นว่า ด้านทิศใต้มีอีกวัตถุ 2 จุดบินฉวัด
เฉวียนระยะสั้นๆในท้องฟ้า โดยหนึ่งในนั้นพุ่งเข้ามาหา พวกเราด้วยความเร็วสูง
มากห่างเพียง 3-5,000 ฟิต โดยหยุดตรงอยู่เหนือเรา และเจาะจงยิงลำแสงลงมา
ยังบริเวณพื้นที่พวกเรายืนกันอยู่ มันเป็นวงเส้นผ่าศูนย์กลางราว 1 ฟุต

โดยลำแสงตลอดแนวที่พุ่งมามีขนาดเท่ากัน เป็นประเภท แสงเลเซอร์ พวกเรายืน
อยู่ที่นั่นด้วยความตกใจกลัว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กำลังเตือนอะไร ? หรือพยายามแสดง
การสื่อสาร ? หรือสิ่งนี้คือสงคราม หรือเพียงแต่ทดสอบเรา ?

และทันใดนั้น มันปรากฎเสียงดัง “คลิก” แล้วมันหายไป เรายืนอยู่ที่นั่นด้วยความ
กังวล ตลอดเวลาที่ผ่านไป เรายังสังเกตเห็นวัตถุอื่นๆ ทางทิศใต้ยิงลำแสงมาจาก
ระยะไกลทางยาวเป็นไมล์ หรือครึ่งไมล์ เหนือบริเวณฐาน Woodbridge
ฐานทัพอากาศ RAF Woodbridge
เรามีคลื่นวิทยุติดต่อต่างกัน 3 คลื่นความถี่ คือ คลื่นตำรวจ คลื่นชุดตำรวจรักษา
ความปลอดภัย และ ลื่นโครงข่ายบัญชาการ ทั้ง 3 คลื่น มีบทบาทหน้าที่ อย่างมี
ประสิทธิภาพ เราสามารถพูดติดต่อสื่อสารไปยังศูนย์สั่งการได้ แต่ทั้งหมดหยุด
ชะงักต่อเนื่อง ในเวลานั้นเราติดต่อสื่อสารอย่างยากลำบาก

เราสังเกตว่า เครือข่ายคลื่นตำรวจ และคลื่นชุดตำรวจ รักษาความปลอดภัยถูก
ลำแสงหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งรบกวน หรือใกล้บริเวณ พื้นที่ศูนย์ปฎิบัติการสงคราม
นิวเคลียร์ ก็ติดต่อสื่อสารอย่างยากลำบากอย่างเดียวกัน

ผู้บัญชาการที่สูงกว่าผม ต้องการข้อมูลว่ามีอะไรเกิดขึ้น ผมสรุปรายงานโดยเปิด
เครื่องบันทึกเสียงนั้นให้ฟัง เขาฟังอย่างตั้งใจ เขาสนองตอบต่อเหตุการณ์ เพราะ
ก่อนหน้านี้ เขาได้ตรวจสอบย้อนหลังเรื่องคลื่นวิทยุในคืนนั้น

เขานำเทปบันทึก เข้าไปในการประชุม คณะทำงานกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 เพื่อ
ติดตามผลในวันพุธ คณะทำงานของกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 เป็นสำนักงานที่ตั้ง
ส่วนหน้าของกองทัพอากาศ ที่อังกฤษ ในเวลานั้น โดยเปิดเสียงบันทึกให้นายพล
Bazley ซึ่งเป็นผู้บัญชาการและคณะทำงานฟัง ทั้งหมดนั่งเงียบกริบ

สิ่งที่เกิดขึ้นกับฐาน ต่อการตัดสินใจเรื่องนี้ คณะทำงานของกองทัพ มีความเห็น
ว่าทางการอังกฤษอาจลังเล ไม่เต็มใจที่ต้องเข้าไปเกี่ยวพัน กับเรื่องโลกอื่น

ดังนั้นผู้บัญชาการ ของผมจึงนำเทปบันทึกเสียง กลับมาคืนผม ผมจึงกล่าวว่า
“เราจะทำอย่างไรดี เจ้านาย ? ” เขากล่าวตอบว่า “จะไปพบหัวหน้าฝูงเครื่องบิน
Moreland ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน สำนักงานของอังกฤษ ” โดยให้เขาทำรายงาน
ปัญหาที่เกิดไม่ใช่จากเรา
RAF Woodbridge ในอดีต
แต่หัวหน้าฝูงเครื่องบิน Moreland ขณะนั้นลาพักร้อนอยู่ที่ Wales เมื่อเขากลับ
มาเขาอาจหงุดหงิด ที่ต้องเป็นคนกลางตัดสินใจเรื่องนี้ ผู้บัญชาการผมจึงพูดว่า
“งั้นเขียนบันทึก” ดังนั้นผมจึงเขียนขึ้นมาอย่างชัดแจ้ง ด้วยความเป็นจริง เป็น
เรื่องแสงที่อธิบายไม่ได้

ช่วยกระตุ้นเรื่องทั้งหลาย เพื่อทำให้เขากลับมาสืบสวนและคิดดูสิ่งที่เกิดขึ้น ผม
ส่งไป Moreland ซึ่งที่นั่นเขาไม่รู้จักผม ทาง Moreland ทำสำเนาให้ผู้มีอำนาจ
ที่เหนือกว่าในกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 ซึ่งผมไม่ทราบเลยในเวลานั้น

และมีสำเนาถึง กระทรวงป้องกันการรุนรานมาตุภูมิ เป็นสิ่งที่ปรากฎระบุอยู่ใน
แฟ้ม จากวันเป็นสัปดาห์ และสัปดาห์เป็นเดือน ผมลืมเรื่องทั้งหมดไปแล้วมันเป็น
สิ่งที่พูด อย่างตรงไปตรงมาสำหรับคุณ

ต่อมาราวปีเศษ หนึ่งในผู้ประสานงานของผม นำเทปบันทึกที่สำเนาจากผมไป
เปิดในงานปาร์ตี้ และมีบางคนสนใจ ผู้นั้นได้ถามคำถามบางอย่าง และพูดว่า
“ถึงยับยั่งเรื่องเขียนบันทึก”

ไม่มีคำพูดที่มากไปกว่านี้ในวันที่ผ่านมา เราเพียงต้องการแปลความ และสำเนา
เป็นเหมือนเปลือกหัวหอม ที่ผมมีอยู่บนโต็ะ ดังที่ผู้บัญชาการผม กลับมาบอกว่า
“มันไม่มีการบันทึกไว้ เป็นทางการหรอก”

Pete Bent เป็นเพื่อนที่ดีของผม มีภาระกิจบัญชาการในกองทัพอากาศ ภาคที่ 3 โทรศัพท์มาหาผม “ผมได้รับสำเนานี้ เราจะเอาออกมารื้อฟื้น” ผมพูดว่า “ขอร้อง
เถอะเผามันซะ” ชีวิตคุณและความรู้สึกจะไม่เหมือนเดิม คุณและผมไม่ต้องการ
สิ่งนี้ เ

ขากล่าว่า ผมต้องพูดมากกว่านี้ เทปบันทึกเสียงที่ส่งกลับ เพราะไม่มีใครรู้จักคุณ
ดีและบันทึก ข้อความในกระดาษ ที่ส่งกลับเพราะถูกเผยแพร่ออกไปข้่างนอกแล้ว
แต่กรณีที่มีบางอย่างเกิดขึ้นนั้น มีความจริงบางอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีก และ
ผมว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ในเวลานี้ที่จะเชื่อสิ่งที่ผมพูด ผมได้ถาม OSI (หน่วยงาน
สืบสวนพิเศษของกองทัพอากาศ) ว่าสนใจเรื่องนี้ไหม เขาตอบว่า “ไม่..ไม่สนทั้ง
หมด” นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ต่อมาผมพยายามสืบหาว่า นายทหารอากาศนายนั้นอยู่ที่ไหน ซึ่งควรรู้ในสิ่งทีี่
ผมพูด ผมก็ไม่เคยเห็นสรุปผล ผมคงต้องหาเขาภายหลัง อาจอยู่ที่ป้อมปฎิบัติ
การ ที่ไหนสักแห่ง หรือป้อมปฎิบัติการที่ Bentwaters ในอังกฤษ เพราะเขาเห็น
วัตถุและตรวจพบลำแสง แน่นอนว่าเขาเห็นบางอย่าง หรือใครก็ตามที่ ทำงาน
อยู่ที่่นั่น ต้องเห็นสิ่งที่กำลังลงมา ในแนวชายป่าของเรา

และยังมีเจ้าหน้าที่รอบๆฐานอีกหลายคน เห็นในสิ่งเดียวกัน เพราะมันเป็นสิ่งที่น่า
สนใจ อะไรที่เราเห็น ? ผมไม่มีความคิดว่า เราเห็นอะไรในคืนนั้น แต่เรารู้ว่ามัน
อยู่ในภาวะ ถูกควบคุมด้วยความทรงปัญญา นั้นเป็นความเห็นส่วนตัว มันอาจ
เป็นสิ่งที่ต่างมิติ หรือ สิ่งทรงปัญญาจากโลกอื่น

Jerome Nelson
Jerome Nelson
(former USAF nuclear missile launch officer):


ปี 1962-1965 ผมอยู่ที่ Atlas-F ICBM ตำแหน่งรักษาการ หน่วยนาวิกโยธิน
ประจัญบานขีปนาวุธ มีภาระกิจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การรบ ฝูงบินขีปนาวุธที่
579 ใน Roswell, New Mexico

บางครั้งเมื่อเข้าฤดูหนาว ช่วงปี 1963-1964 ซึ่งผมอยู่ในช่วงการเตรียมพร้อม
ปล่อยขีปนาวุธ ที่ศูนย์ควบคุม บริเวณพื้นที่ Atlas 9 ด้านตะวันตกของ Roswell
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่อยู่ในตำแหน่งด้านบนสุดของหอ ได้โทรศัพท์
รายงานเข้ามาว่าเห็นแสงสว่างมาก มีความเจิดจ้ารอบๆ วัตถุบางอย่างบินลอย
ไปมาเหนือไซโลที่เก็บขีปนาวุธ และมีแสงสาดส่องลงมาที่นั่น ผมบอกเขาว่าผม
ซีเรียสในสิ่งที่คุณพูด ซึ่งเสียงเขาฟังดูก็มีท่าทางตกใจมาก

ผมเรียกผู้บัญชาการฐาน ให้ออกคำสั่งไปยัง หน่วยเดินตรวจของฐานทัพให้
รายงานสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะผมกังวลว่าวัตถุนี้ อาจเข้ามาก่อวินาศกรรมฐานยิง
ขีปนาวุธ

เดือนต่อมา มีการเกิดขึ้นของสิ่งเหล่านี้ มากหลายครั้ง แต่ละครั้งที่เกิดขึ้น ได้รับ
รายงานว่า เป็นการเผชิญเหตุการณ์ที่เหมือนกัน เป็นการนัดหมายในปรากฎขึ้น
ทั้งผู้เห็นเหตุการณ์ หน่วยรักษาความปลอดภัย ซึ่งแทนที่จะเรียกว่า รายงานการ
เตรียมพร้อมของศูนย์ควบคุมสั่งการ กลับต้อง เรียกว่า รายงาน UFOs

หน่วยรักษาความปลอดภัย เป็นหน่วยที่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตลอดเวลา และ
เป็นอะไรที่ต้องตกใจ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะวัตถุนั้น ลอยไปลอยมาเหนือ
พื้นที่เรา ทุกคนจะกล่าวแบบเสียงสั่นระริก

เพราะความรับผิดชอบ ต่อการเตรียมพร้อมของศูนย์ควบคุม ผมจึงไม่สามารถขึ้น
ไปในตำแหน่งด้านบนสุด ของหอค้นหาวัตถุนั้นด้วยตนเองได้

หากย้อนหลังไป ทำให้เรารู้ว่า ไม่เพียงทศวรรษที่ผ่านมา อย่างน้อยพบว่าในราย
งานเก่าๆของ Bob Kaplan เจ้าหน้าที่เทคนิคขีปนาวุธ เคยรายงานว่า สำนักงาน
สอบสวนพิเศษของ ทำรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นคล้ายกันนี้

และเขาเป็นผู้เห็นเหตุการณ์พื้นที่ 9 ในช่วงเวลานั้น ในขณะที่มีการปรับปรุงฐาน
เราจะดูแลขีปนาวุธ โดยนาวิกโยธิน และเราจะไม่ทราบว่าเป็นใคร มาจากไหน เพราะคนเหล่านั้นถูกคัดกรองโดย OSI (หน่วยงานสืบสวนพิเศษของกองทัพ
อากาศ) ซึ่งผมไม่ทราบ นั้นคือรายงานของผมทั้งหมด
Atlas-F ICBM ขณะก่อสร้างในปี 1961
Patrick McDonough
Patrick McDonough
(former USAF nuclear missile site geodetic surveyor):


เมื่อถึงวันนี้ การบอกเล่าจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นของผม ในเดือนกันยายน ปี 1966 ซึ่ง 44 ปีมาแล้ว แต่ประสบการณ์ผมเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัด โดยพื้นฐานมัน
เป็นสิ่งที่ผิดหวังในความจำของผม ผมจะไม่ลืมเรื่องราวทั้งหมด ผมทำเพื่อต้อง
การผลักดันประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ให้มีการบันทึกไว้

ผมสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพอากาศ ที่ Berkeley, California พฤศจิกายน
ปี 1962 เป็นช่วงที่เราใช้ขีปนาวุธ โจมตีประเทศคิวบา นับว่าเป็นช่วงวิกฤตและ
ผมศึกษาด้านวิศวกรในวิทยาลัย เมื่อจบแล้ว ทำงานด้านวิศวกรอีก 3 ปี ด้วย
ความรักชาติ กองทัพอากาศพิจารณาพื้นเพผม จึงให้เข้ามาฝึกด้าน Geodetic
(การสำรวจเกี่ยวกับด้านรูปร่างและพื้นผิวโลก)

ผมจึงมีหน้าที่รับผิดชอบ หน่วยสำรวจ Geodetic สำหรับฝูงบิน ใน Orlando,
Florida ปี 1965 ผมย้ายจาก Warren มายังฐานกองทัพอากาศ ใน Wyoming
โดยเฉลี่ยผมย้ายพื้นที่การทำงานทุก 9-10 เดือนในแต่ละคราว เพื่อสำรวจตาม
ตำแหน่งแนว เส้นลองติจูด เส้นละติจูดของโลก บริเวณฐานขีปนาวุธและฐานบิน

เพื่อเป็นระบบนำร่องสำหรับ ตำแหน่งขีปนาวุธและเครื่องบิน โดยพื้นฐาน ฝูงบิน
ขีปนาวุธต้องอาศัย การจัดเตรียมระยะพิกัดทางภูมิศาสตร์ ที่ถูกต้องและแม่นยำ
สำหรับให้ขีปนาวุธหรือเครื่องบินใช้เป็นตำแหน่งในระบบนำร่อง เพื่อเป็นเป้า
หมาย ซึ่งถือว่าเป็นต้องกระทำด้วยความฉลาดหลักแหลม ของข้อมูลเป้าหมาย

กันยายน ปี 1966 ตัวผมและนายทหารอากาศ 2 นาย คือ นายทหารอากาศ
ระดับ 1ชื่อ Al Kramer และนายทหารอากาศ ระดับ 3 ชื่อ Charlie Coatea
เราทั้งหมดรับผิดชอบงาน ชั่วคราวที่ฐานทัพอากาศ Malmstrom

เราไม่มีวิทยุสื่อสาร และอะไรเลยที่นั่น ผมคือหัวหน้าของคณะที่ต้องสำรวจ มีผู้
ร่วมงานเพียง 3 คน โดย Al Kramer มีหน้าที่บันทึก Charlie Coatea มีหน้าที่
พิมพ์ผลลัพท์ ทั้งสองต้องช่วยกันสำรวจและบันทึกข้อมูล เป็นเรื่ืองธรรมดาที่เรา
เข้าไปในเขตฐานยิงขีปนาวุธ ในเวลาก่อนพลบค่ำ (เพราะต้องใช้ดาวบนท้องฟ้า
ช่วยหาพิกัด) ในการสำรวจเพื่อหาค่าพิกัดเส้นลองติจูด เส้นละติจูด
ฐานยิงขีปนาวุธ Malmstrom ในปี 1960
ในคืนวันหนึ่งปรากฎสิ่งนี้เกิดขึ้น เราทั้งหมดเมื่อดำเนินงานต่อเนื่องเสร็จสมบูรณ์
แล้วก็ติดต่อหา กันแจ้งข้อความว่า “ Celestial-astro-azimuth observations” (สังเกตการณ์ เส้นขอบฟ้า-ดาว-เส้นวางราบ) ด้านทิศใต้ของเมือง Conrad และ
เมื่อผมสำรวจจบ Al Kramer ก็จะบันทึกต่อ ส่วน Charlie Coatea จะกำหนด
ด้วย Chronometer (นาฬิกาที่เที่ยงตรงมาก) ต่อจาก Al Kramer โดยเวลาต้อง
สัมพันธ์กับดาวเหนือ

ความคิดผมมีสิ่งผิดปกติ เรื่องฐานยิงขีปนาวุธ ที่เกิดมีการทำลายประตูเล็กด้าน
บนไซโลที่เก็บขีปนาวุธให้เปิดออก และผิดปกติมากๆ โดยทั่วไปเมื่ิอเราจะเข้าไป
ในฐานยิงขีปนาวุธ ต้องไม่กระทำให้เกิดภาวะ กัมมันตภาพรังสีจากขีปนาวุธ

ดังนั้นที่นั่นต้องถูกปิดสนิท มีเสาหินขนาดใหญ่ถูกทำไว้ ล้อมเป็นสี่เหลี่ยมเป็น
ขนาดใหญ่มากๆ มันเกี่ยวข้องกับตัวพื้นโครงสร้างแน่นหนา มันเป็นพื้นฐานที่แข็ง
แรงใช้ในการยิงออกไป ดังนั้นต้องมีใครเข้าไปที่นั่น ทำลายประตูให้เปิดออก

ขณะที่เราสำรวจและเล็งดาวบนท้องฟ้าใกล้เสร็จ เรายังมีตำแหน่งเสาหินเหลือ
อีก 3 ต้นและผมอยู่ที่เสาหินนั้น สักครู่ต่อมาประตูเล็กด้านบน มันเปิดออก
มันเป็น 1 ใน 30 ช่อง ที่มีอยู่

ผมเชื่อว่า UFOs มาหยุดอยู่ด้านบน เหนือเราแล้วเปิดออก ผมอยากจะพูดว่า
สิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไปราว 300 ฟิต ประมาณนั้นอาจจะไม่สูงนัก มันอาจยากเล็กน้อย
แต่ในนั้นมันมืด และมีทรงกลม ผมคะเนมีเส้นผ่าศูนย์ด้านบนราว 50 ฟุต นับว่า
ค่อนข้างใหญ่่ ที่สำคัญคือ มองเห็นแสงที่ผ่านทะลุเข้ามานั้น เต้นเป็นจังหวะรอบๆ
มีแสงสีขาวจากตรงกลาง มองเห็นลงมาถึงด้านพื้นในไซโล

ในนั้นไม่มีลม ไม่มีเสียงรบกวน มันเกิดขึ้นที่นั่น มากที่สุดอาจจะ 20-30 วินาที
เวลานั้นผมต้องจดจำอย่างแน่นอน ตาผมเพ็งมองขึ้นไปที่ดาว อย่างฉับพลัน
จากที่ผมเพิ่งใช้สำรวจเมื่อครู่ เป็นอะไรที่สูงกว่าแนววงกลมของท้องฟ้า ผมพูด
กับตัวเองว่า เกิดอะไรขึ้นถ้ายิงลำแสง ขึ้นไปที่วัตถุนั้น เพื่อวัดระยะทาง พราะมัน
อาจไม่มีทางกลับมายังโลกอีก ? ผมคิดเช่นนั้น นี้เป็นสิ่งที่ อยู่ในหัวผม ซึ่งเป็น
ความคิดอ่านเกินเลย
ด้านทิศใต้ของเมือง Conrad, Montana ในปัจุบัน
นอกเมือง Conrad, Montana ในปัจุบัน
จากนั้นมันหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว มันยิงลำแสงไปทางทิศตะวันออก มันเหมือน
“สิ่งที่มีอำนาจทำลายล้าง” หลังจาก UFOs ออกไป ผมรีบคว้าเครื่องมือ กระโดน
ขึ้นรถทิ้งเหตุการณ์นั้นไว้ข้างหลัง และถ้ามันกลับมา ไม่ว่าที่ไหนผมไม่อยากเจอ
เรื่องเช่นนี้อีก

เราไม่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยสำหรับเรา เหตุผลเพราะที่ๆเราไปทำงานไม่มี
ขีปนาวุธ และเราไม่มีวิทยุสื่อสาร เหตุผลเพราะเราไม่ต้องติดต่อภาระกิจกับฐาน
ของกองทัพอากาศ

ผมไม่ทราบเรื่องใดๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ชุดอื่นๆ ผมบอกอย่างตรงไปตรง
มาในสิ่งนี้ พวกเราเพียงออกไปอยู่ที่นั่น ต้องทำในสิ่งที่เป็นงานของเรา ทำในพื้น
ที่นั้นและนำข้อมูลกับมา ผมไม่ทราบว่าที่นั่นมีปัญหาในเรื่อง UFOs

แต่การพลิกผัน กรณีคืนนั้นมันเหนือความคาดหมาย โดยสิ้นเชิง เรากลับออก
มาอย่างรวดเร็ว โดยมี Conrad อยู่ด้านหลัง และกลุ่มกองทัพวิศวกร ที่ฐานจรวด
ตลอดแนวถนนที่ผ่านออกมา ซึ่งกำลังขนย้ายขีปนาวุธเข้าไปในพื้นที่ติดตั้ง

แน่นอนว่าที่นั่นคือฐานใหม่ มองดูลงมามีการสร้างถนนที่กว้างมาก ผมอยู่บนแนว
ทิวเขากำลังขับรถ บนที่ไม่ใช่เป็นถนน มันมีเสียง “ทีสสส์”(คล้ายเสียงลูกกอล์ฟ
แหวกอากาศ) ผมพยายามลอง ฟังดูว่ามาจากทางซ้ายหรือทางขวา

ผมดูทางซ้าย เนื่องจาก Conrad อยู่ด้านนั้น และรถถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศ
เราร่วงลงมาและอยู่ใต้ท้องรถ โชคยังดีที่พวกเราไม่มีใครบาดเจ็บ เราต้องเดิน
ออกมาใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง พบกับบ้านชาวไร่ ที่อยู่ใกล้ๆ ผมโทรศัพท์ติดต่อ
ไปยัง ตำรวจทางหลวง Montana ให้ช่วยเหลือ โดยชาวไร่ช่วยมาส่งส่งพวกเรา
กลับไปยังจุดอุบัติเหตุ เพราะยังมีอุปกรณ์ต่างๆที่นั่น

เมื่อตำรวจทางหลวงมาถึง เราแจ้งกับเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาสอบถามพวกเรา
และเราตอบ เขาบอกว่ามีการส่งคนออกไปดู และมีรายงานมากกว่า 20 ครั้ง
ในสำนักงานเรื่อง UFOs บริเวณนี้ในเวลากลางคืน

ผมได้เขียนบันทึกฉับพลัน เพื่อรายงานเรื่องเหตุการณ์ถึงหน่วยงาน ในอุบัติเหตุ
ดังกล่าว คุณทราบไหมว่าผมกลับไม่ได้ยินคำตอบใดๆจากกองทัพอากาศเลย
ไม่มีผลตอบกลับ หรือการชำระสินไหมใดๆ จากการเรียกร้อง ที่ผมร่วงลงมา
และอยู่ใต้ท้องรถในคืนนั้น

จากจุดอุบัติเหตุระยะทาง 18 ไมล์ รถกลับมาในตอนบ่าย มันเป็นรถใหม่ ทั้งนี้
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมต้องกลับใช้ความคิด อยู่ที่พักที่ ฐานทัพอากาศ Warren
ผ่านไปเดือนครึ่ง เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่กล่าวถึงเรื่องรถคว่ำที่ Montana
ของผมแม้แต่ครั้งเดียว เขาไม่เคยถามและผมก็ไม่กล่าวถึงมัน

ผมไม่ต้องการต่อรองใดๆ แต่ผมจำเป็นต่อบอกในขณะนี้ ในเรื่องผมตลอด 4 ปี
ที่ทำหน้าที่ หน่วยสำรวจ Geodetic สำหรับฝูงบิน ลักษณะงานผมต้องทำก่อน
ติดตั้งขีปนาวุธและก่อนฝูงบินและต้องทำในทุกๆที่ เพื่อเป็นระบบ นำร่อง

ผมหรือคณะทำงานของผมไม่เคยเห็นอะไร ในข้อสรุปของกองทัพอากาศ ที่จะ
กล่าวอ้าง ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ UFOs มันไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่เราแน่ใจ
ว่าไม่มีการทำอะไรใดๆ ผมไม่เคยเห็นสิ่งใดที่เหมือนสิ่งที่เล่าให้ฟัง โดยมีความ
หวังว่าวันหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ รัฐบาลจะรับรู้ข้อมูลต่างๆของ UFOs ที่ได้
นำมาแถลง
Bruce Fenstermacher
Bruce Fenstermacher
(former USAF nuclear missile launch officer):


ผมไม่มีเรื่องตื่นเต้นแบบเรื่องรถคว่ำห่างออกไป 18 ไมล์นั้น ระหว่างปี 1974-1976
ผมเป็นผู้บัญชาการนาวิกโยธิน และมีฐานะเป็นกัปตันในกองทัพอากาศ ที่ฐานทัพ
อากาศ F.E. Warren ในหน่วยที่ 400 SMS มีภาระกิจรับผิดชอบ Romeo Flight
(*แผนที่กลุ่มฐานขีปนาวุธ*)

ปรากฎในช่วงปี 1976 ผู้ช่วยผมบอกว่า “ไม่ทราบว่าใครโทรศัพท์มาหาคุณเพราะ
เขาไม่ยินยอม บอกชื่อให้จดไว้” จึงลองแจ้งคุณดูก่อน เมื่อได้ยินเช่นนั้นผมอยาก
สนทนาด้วย

โดยหัวหน้าผู้ควบคุมระบบรักษาความปลอดภัย NCO (ลำดับแสดงชั้นในกองทัพ
อากาศ) และทีมยุทธศาสตร์การแจ้งเตือนภัย SAT (เกี่ยวกับความละเอียดอ่อน
ด้านการศึกษายุทธศาสตร์) ทั้งนี้เป็นรูปแบบ และหนทางหนึ่งที่จะตรวจสอบคำ
เตือน เพราะ SAT เป็นผู้ช่วยที่มีความสำคัญในเรื่องก่อการร้ายในเวลาที่น่าวิตก

แต่ทันทีทันใดนั้น เราได้ยิน FSC (ชุดสนับสนุนกิจการภายใน) แจ้งไปยัง SAT
ว่า “ให้หยุดรถคันนั้น ตรวจค้นให้ทั่ว” เราไม่ทราบในสิ่งที่เขาบอกว่าอยู่ที่ใดและ
ยังไม่เห็นอะไรใดๆ ผมและเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามมองหาสิ่งนั้น มีบางคนพูด
ว่า “คุณเห็นอะไร” ผมตอบว่า “ไม่เห็นอะไร ผมไม่เห็นอะไรเลย”

พระเจ้า..ผมเห็นแสงสีขาวเต้นเป็นจังหวะบนท้องฟ้า อาจมีระยะทางยาว 7-8 ไมล์
FSC ถามเข้ามาว่า มันอยู่ที่ไหน เขาตอบว่า “มันอยู่ทางทิศเหนือ”มันกำลังใกล้
เข้ามาที่เขตควบคุมการเตรียมพร้อมนี้

ผู้ช่วยผมบางคนพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกในประโยคดังกล่าว เราแจ้งขึ้นไปข้างบนและพูด
ว่า “อะไรกำลังเกิดขึ้น ?” เขาตอบกลับมาว่า “กัปตัน คุณต้องไม่เชื่อเรื่ิองที่เกิด
เกิดขึ้นนี้แน่” แต่มันเป็นข้อเท็จจริงสำหรับเรา คิดว่าสิ่งนั้นมันใหญ่มากมีแสงสีขาว
เต้นเป็นจังหวะอยู่เหนือพวกเรา

เพื่อความแน่ใจ ผมจึงแจ้งไปว่าผมยังมองไม่เห็นอะไรเลย เพื่อหยั่งเชิงดู เขาบอก
กลับมาว่า มันมีรูปร่างคล้ายซิการ์อ้วนๆ ผมคิดและพูดว่า “ซิการ์ตั้งท้อง” ซึ่งเป็น
คำพูดี่แหย่ออกไป เขาพูดกลับมาว่า แสงสีขาวเต้นเป็นจังหวะ ระหว่างจังหวะการ
เต้น มองเห็นแสงสีแดงและสีน้ำเงิน มันเงียบมาก

“มันเป็นเฮลิคอป์เตอร์หรือเปล่า ?” เขาตอบกลับว่า “ไม่ใช่ มันเงียบมากๆ” เรารอ
เวลาอีกครู่ แล้วเขาก็พูดว่า “มันเริ่มที่จะเคลื่อนที่ยาวขึ้น ไปตามถนน” ดังนั้นผม
และผู้ช่วยต่างพูดขึ้น เราต้องเตรียมพร้อม “เราจะทำอย่างไร? ในการรายงานเ
รื่องนี้ ” มันเข้าไปที่ไซโลของขีปนาวุธ หนึ่งในพื้นที่เตรียมพร้อมของเราอยู่ใกล้
เพียงมีถนนขั้นกลางเท่านั้น

ผมต้องสั่งการให้ ชุดปฎิบัติการ SAT เข้าไปใน พื้นที่นั้น และเขาแจ้งกลับมาว่า
ต้องกลับไปเอาแบตเตอรี่ เพราะเหลือน้อยมาก ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะช้าลงไปอีก
ผมจึงออกคำสั่งให้เขา “ไปก่อน เข้าไป เข้าไป”

ในเวลาเดี๋ยวกัน เราติดต่อผู้บัญชาการ SAT ที่กองรักษาการณ์ ใน F.E. Warren
และ NCO เพื่อตอบ คำถามและเล่าเรื่องราวให้เขาทราบ เขากลับหัวเราะ และ
พูดว่า “เป็นเวลากินอาหาร แล้วจะติดต่อกับ” ด้วยเหตุนี้ชุดปฎิบัติการ SAT ไป
ไม่ถึงที่นั่น

เราเรียกชุดปฎิบัติการ SAT ไป 3-4 ครั้งอีก ซึ่งเมินเฉยไม่สนใจ ครั้งสุดท้ายผมพูด
ว่า “คุณจะบันทึกเรื่องนี้ไหม?” เขาตอบว่า “ไม่” ผมจึงพูดต่อไปว่า “บอกผมว่าคุณ
มีหน้าที่ดูแล รับผิดชอบสิ่งใด” คำตอบที่ได้รับคือ “คุณวุ่นวายแท้”

ชุดปฎิบัติการ SAT กลับมาพร้อมคำพูดเหลวไหล เขาบอกว่ามีรถเข้ามาก่อกวน
ทำความวุ่นวาย ต้องติดตามไป 5 ไมล์เกือบชั่วโมง มันเหมือนเรื่องยาวแต่สั้น
ฐานทัพ อากาศ F.E. Warren
วันต่อมาผมได้ขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นที่ตั้ง ของ FSC จอมปลอมตำแหน่งประธาน
จวนเจียนเหมือนตำแหน่งทารกที่อยู่ในครรภ์ ผมพูดกับเขา เขารู้สึกหวาดกลัว
เขาบอกว่า “ผมนอนไม่หลับ ในความรู้สึกผม ผมคิดอะไรไม่ออก” ผมจึงพูดว่า
“ชุดปฎิบัติการ SAT เป็นอะไรที่น่ารำคาญ”

เขาพูดอีกว่า “เราทั้งคู่เป็นผู้รักษาการ เราต้องทำ เรื่องที่สำคัญก่อน ดังนั้นเรา
ต้องเดินไปข้างหน้าด้วยกันอีกยาวนานด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าคุณ
สัญญา ก็ไม่จำเป็นต้องบอกใคร”

เขาบอกผมต่ออีกว่า เขาจะไม่ไปไหนในพื้นที่นี้ทั้งสิ้น คิดว่าสิ่งนั้นมันมาอยู่เหนือ
พวกเราไม่มีคำสั่งโดยตรง ไม่มีอะไร ในข้อเท็จจริงไม่เคยเกิดอะไรที่ พื้นที่ควบคุม
การเตรียมพร้อม

ผมเดินออกมาสวนกับ ชุดปฎิบัติการ Quebec ซึ่ง Quebec นั้นไปทางเดียวกับ
Romeo และ ชุดปฎิบัติการ SAT ชอบที่จะร่วมเดินทาง พูดคุยเรื่องไร้สาระไป
ด้วยกัน เขาทั้งหลายมักพูดถึงเรื่อง ในค่ำวันนั้นของเราที่ผ่านมา

ผมจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ? คุณรายงานมันหรือเปล่า ?” เขากล่าวตอบมาว่า
“คุณจิตฟั่นเฟือน หรือเปล่า? ” เราไม่มีรายงาน เราไม่ได้ออกไปจึงไม่ต้องราย
งานมัน ผมพูดต่อไปอีก “ดีแล้ว แต่ผมทำ” เขาพูดขึ้นว่า “ดี ถ้าคุณบอกอะไร
ที่เกี่ยวกับเรา” เราก็จะบอกว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

ในกรณีของผมนี้ ผมต้องการลุกขึ้นและพูดว่า “สิ่งไหนคือมัน ?” มันไม่เกิดขึ้น
หรือ มันเป็นความลับสุดยอด ? กันแน่


Robert Salas
Robert Salas กล่าวสรุป
(former USAF nuclear missile launch officer):


คุณได้ยินได้ฟังอะไรในวันนี้ เป็นการเปิดเผย ปรากฎการณ์ มันฟังดูน่าประหลาด แปลกประหลาด เรานำเสนอพยานหลักฐาน ในที่สาธารณะ อย่างเปิดเผยเพื่อ
เรียกร้องให้รัฐบาลสนใจ โดยเราทั้งหมดจะลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร

เพื่อพิสูจน์ว่าจริงและโปร่งใส ในถ้อยแถลง พยานหลักฐานของเรา ปัจจุบันถือ
ว่าเป็นสาธารณะ ตอบด้วยข้อเท็จจริง ว่าอะไรคืออะไร เพื่อ สาธารณะจะได้ทำ
อย่างไรต่อไปกับมัน โดยการยืนยันเปิดเผย ?

มันเป็นภาระกิจทั่วไปของสื่อ ที่พูดเยาะเย้ย เสียดสี ต่อเรื่องแบบนี้ เพื่อให้มีความ
กระจ่าง โดยการยืนยันเปิดเผย เราไม่เพียงสามารถเชื้อเชิญ และให้เวลาสำหรับ
คุณเพียงเท่านี้ เราจะให้บางอย่างที่มีเงื่อนไข น่ากังวลใจ

ไม่เพียงแต่ถ้อยแถลงของเราทั้งหลาย แต่ถ้อยแถลง ของผู้เห็นเหตุการณ์อื่นๆ
ในที่นั่น ไม่ว่าของใครก็ตามมีพยานหลักฐาน ที่คล้ายคลึงกัน ในจุดนั้น โดย
เฉพาะพยานหลักฐาน ข่าวสารที่ให้ ต้องการช่วยสนับสนุนคำพูดของเรา

เราหวังว่า เวลาที่ใช้ไปทั้งหมดนั้น อย่างน้อยทำให้มองเห็นสิ่งเหล่านั้น เพื่อการ
วิเคราะห์ในสิ่งนี้ที่ละน้อย ถ้าเราต้องทำ ผมคิดว่าคุณคงทำให้แบบเดียวกัน

ในส่วนสุดท้ายทั้งหมดที่เรามี นั้นคือ ปรากฎการณ์ UFOs เป็นความจริง ไม่ใช่
จิตนาการ เหล่านั้นคือ กระแสเป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน มากเกินพอ ที่ถูกปิดบัง
โอบล้อม อำพรางจากรัฐบาลในปรากฎการณ์นี้ โดยไม่รับรู้ว่า วัตถุซึ่งอยู่ใน
จิตนาการมีอยู่ในความจริง

การสังเกตเห็นมากมายหลายครั้ง ที่บริเวณศูนย์ปฎิบัติการสงครามนิวเคลียร์
และที่อืนๆของพื้นที่เตรียมพร้อมนิวเคลียร์ และในบางกรณี ปรากฎให้เห็นวัตถุ
ุนั้นอย่างพร้อมๆกัน ซึ่งเป็นภัยต่อระบบการเตรียมพร้อม ต่อปฎิบัติการสงคราม
นิวเคลียร์

แม้ว่าเราแต่ละคน มีคำวิิจฉัยในใจที่แตกต่าง ในความหมายและจุดประสงค์
ชองพยานหลักฐาน ผมคิดว่าเราสามารถยืนยันได้ทั้งหมด ว่าเป็นความยุ่งยาก
จากสงครามนิวเคลียร์ ที่มีความละเอียดอ่อนต่อ การปกป้องความปลอดภัย
นานาชาติ
ผู้ที่เคยรับราชการในกองทัพสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยโดยการแถลงข่าว
นี่คือนโยบายเรื่อง UFOs ของกองทัพอากาศ อย่างเป็นทางการ กำหนดขึ้นเมื่อ
ปี 2005 แต่ผมเชื่อว่า เป็นนโยบายที่ยังใช้ในปัจจุบัน ผมจะอ่านสักตอนให้ฟัง
มันสรุปสั้นๆว่า “ไม่มีรายงาน เรื่อง UFOs ที่ผ่านมาในอดีต” จากการสืบสวน
ประเมินผลโดยกองทัพอากาศ คือกรณี พยานหลักฐานการคุมคามต่อการปก
ป้องความปลอดภัยนานาชาติ

นั้นคือ ทำให้เกิด ความเข้าใจผิดอย่างชัดแจ้ง มันเป็นเรื่องเท็จ ที่ฐานของเรา
มันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป ถ้อยแถลงสรุป ถึงการไร้เหตุผลต่อการสืบสวน
เรื่อง UFOs ของฐาน จากพยานหลักฐานและรายงาน อ้างอิงโดย University
of Colorado ในปี 1969

ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ของ Condon Committee Study นั้นคือ แสดง
พยานหลักฐานมากมาย จากการศึกษาอย่างเร่งรีบ และลำเอียง โดยเฉพาะ
เจาะจง Echo Flight และ Oscar Flight บางอย่างในเรื่องที่ผมกล่าว เป็นสิ่งที่
Condon Committee Study ไม่เคยเข้าไปสอบสวนใดๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
ทั้งหมด

เป็นสิ่งที่ต้องตระหนัก ต่อพยานหลักฐาน ไม่ต้องสงสัย ว่าการประกาศอย่าง
เป็นทางการว่า จะไม่เป็นความลับที่เกิดขึ้นในวันนี้ ต้องมีความขัดแย้ง โดยตรง
กับ ถ้อยแถลงของนโยบายกองทัพอากาศสหรัฐ

เราถามไปยังรัฐบาลของเรา เพื่อตอบสาธารณะให้เด่นชัด ในความคลาดเคลื่อน
ความแย้งกันโดยแท้จริง เราต้องการคำตอบ บนพื้นฐานของทฤษฎี ด้วยความ
เป็นประชาธิปไตย

ที่เรากล่าวเช่นนี้ เราต้องการให้ การถ่ายทอดข้อความของ Franklin Delano
Roosevelt (ประธานาธิบดี คนที่ 32 ของอเมริกา) “ประชาชนมัก เลือกความน่า
เชื่อถือที่ยอมรับได้ และข้อมูลข่าวที่ดีเพียงพอ ผดุงไว้ด้วยอำนาจสูงสุดเหนือ
รัฐบาล”

ท้ายที่สุด ผมต้องการกล่าวว่า ผมคิด ผมพูด สำหรับทุกคนและพวกเราที่นี่ ผม
มีความนับถือต่อทุกคน ทั้งชายและหญิงที่อยู่ในกองทัพอากาศสหรัฐ ผมจบการ
ศึกษาจาก Air Force Academy ผมใช้ชีวิต ที่ผ่านมาในกองทัพอากาศ ด้วย
ความผาสุขสมบูรณ์ และผมมีเกียรติที่ได้รับใช้ประเทศของผม ในหนทางนั้น

กองทัพไม่จำเป็นต้องสัญญาหรือขัดแย้งกับพวกเรา หรือผู้คนในกองทัพอากาศ
ด้วยกัน เพราะต้องปฎิบัติตามนโยบายของกองทัพอากาศ ผมคิดว่าทั้งหลายนั้น
ต้องมีเจตนาอันปราศจากการครอบงำ

ข้อเท็จจริง อาจไม่เพียงเท่านี้ ที่คุณจะรับรู้ที่นี่ แต่คุณจะรู้ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี
1969 โดยการกระทำ ที่ไม่เปิดเผยต่อ พลเมืองที่ต้องมีส่วนร่วมและการตัดสินใจ
ในประเทศนี้ ด้วยความเคารพ กรณีทั้งหลายต้องชัดเจน ต่อผลความปลอดภัย
นานาชาติ ซึ่งเป็นความกังวลทั้งหมด ของพวกเรา เราเพียงถามคำถามง่ายๆ
จากข้อเท็จจริง ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ให้ความสนใจ

ที่มา : http://sunflowercosmos.org/UFOs_at_nuclear_sites/UFOs_at_nuclear_sites_main/UFOs_at_nuclear_sites_1.html















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น