วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

มนุษย์ต่างดาว เรื่องจริง หรือเท็จ ?





 

คำอธิบาย

พบว่า เรื่องมนุษย์ต่างดาว ได้มีการเผยแพร่เป็นจำนวนมาก ต่างมีเหตุผล
ความเห็นเฉพาะตนแต่ละกรณีไป โดยมองในแง่สิ่งลึกลับ หรือเรื่่องแปลก
ทั้งหมดมิได้เป็นสิ่งผิดปกติ ต่อความเข้าใจที่ผ่านมา
แต่ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ อาจมีข้อจำกัดและน้อยต่อการอธิบายเรื่องเช่นนี้
จึงขาดแคลนข้อมูล ให้ประกอบการพิจารณาต่อผู้สนใจเรื่องนี้

สำหรับเนื้อหาเรื่อง มนุษย์ต่างดาว ในข้อเขียนชิ้นนี้
มิใช่นวนิยายหรือคำบอกเล่า จากประสบการณ์ของผู้ใด
แต่เป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนเรื่อง Life of the Universe
สำหรับการศึกษาด้าน จักรวาลวิทยาและดาราศาสตร์ มีทั้งสิ้น 13 บท
แต่ได้คัดย่อ มาเพียง 1 บท เรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น
ซึ่งเกี่ยวข้อง กับการมาเยือนโลก ของมนุษย์ต่างดาวด้วย UFO
เจตนาเพื่อเสริมความรู้ ตามหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์

ทั่วไปบางคนมองว่า เรื่องมนุษย์ต่างดาวและ UFO เป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระ
แต่บางคนกลับเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นได้ มีการรับรู้รับทราบว่าได้เกิดขึ้นบนโลกแล้ว
ด้วยเหตุผลใดก็ตาม จึงมีทั้งฝ่ายเชื่อและฝ่ายที่ไม่เชื่อ แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายที่เชื่อ
นั้นมีมากกว่าครึ่งโลก

แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ บางคนก็ตอบคำถามเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง เพราะไม่แน่
ใจอย่างถ่องแท้ ด้วยไม่เคยเห็น ด้วยไม่เคยมีรายงานอย่างเป็นทางการ หรืออาจ
ผิดต่อหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ในหลายประเด็น

ส่วนผู้ที่มีความเชื่อ ก็มักจะเชื่ออย่างจริงจัง ขาดการพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์ที่
ตนสามารถวิเคราะห์ได้ แม้จะมิได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ก็ตาม

ดังนั้นข้อมูลต่อไปนี้ เพื่อประสงค์ใช้เป็นพื้นฐานส่วนหนึ่ง ต่อการวิเคราะห์ในหลัก
เกณฑ์ของเหตุและผล ตามแนวความคิดแต่ละบุคคล อาจช่วยให้เข้าใจเงื่อนไข
ความเป็นจริง หรือเท็จ เรื่อง UFO และมนุษย์ต่างดาว

ไขกุญแจแห่งความหมาย UFO และ Alien

UFO (Unidentified flying object) หมายถึง วัตถุบินได้ที่ไม่ปรากฎหลักฐาน
เห็นในแนววิถีของท้องฟ้า มีกลไกการเคลื่อนที่และเปล่งแสงออกมาได้ ซึ่งไม่
สามารถอธิบายตามหลักการ และเหตุผลปกติได้

Alien หมายถึง ผู้หนึ่งผู้ใดที่มิได้กำเนิดบนดาวเคราะห์โลก โดยถือว่าอาจมาจากที่
ใดก็ได้จากนอกโลก ในอวกาศ เรียกว่า มนุษย์ต่างดาว ทั้งนี้มิได้เจาะจงในเรื่อง
ระบบชีวิต ระดับความคิด และ รูปแบบที่ชัดเจน เป็นการเรียกโดยรวม ต่างจากคำ
ว่า Extraterrestrial Intelligence (สิ่งทรงปัญญาในจักรวาล) ซึ่งเจาะจงเป็นสิ่งใด
ก็ตาม ต้องมีเชาว์ปัญญาไหวพริบ ไม่น้อยไปกว่่ากว่าระดับของมนุษย์
Alien จากจินตนาการในภาพยนต์
จานบิน ปรากฎการณ์แรก

ประวัติทางวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ เรื่อง UFO ครั้งแรกๆ เกิดขึ้นเมื่อ ค.ศ.1947 โดย
นักธุรกิจชื่อ Kenneth Arnold บินด้วยเครื่องบินส่วนตัวใกล้บริเวณ Mount Rainier
รัฐ Washington ประเทศอเมริกา

ขณะอยู่บนท้องฟ้าสังเกตเห็นวัตถุบินได้ ส่องแสงเปล่งปลั่ง ผ่านหน้าด้วยความเร็ว
ราว 2,000 กม./ชม. ข่าวดังกล่าวถูกรายงานบนหน้าหนึ่ง ของหนังสือพิมพ์ United
Press กล่าวว่าสิ่งที่ Kenneth Arnold เห็นคือ Flying saucers (จานบิน)

หลังจากการพาดหัวข่าวครั้งนั้น ถัดมาตลอด 10 ปี คำว่าจานบิน เป็นสิ่งที่คนทั่วไป
รู้จักในความหมายวัตถุบินได้ (ซึ่งไม่ใช่เครื่องบินของมนุษย์) ทั้งนี้เป็นการเสริม
แต่งจาก นวนิยายและภาพยนต์ควบคู่กันไปด้วยจนกระทั่งวันนี้

โดยแท้จริงแล้ว คำว่าจานบิน เป็นคำเยาะเย้ย แสดงให้เห็นว่า Kenneth Arnold
ไม่สามารถอธิบายรูปร่างสันฐานวัตถุที่เห็นว่าเป็นแบบใด เป็นจานหรือแบนหรือ
กลมจากข่าวในครั้งนั้น ทั้งสามความหมายจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัตถุใน
เวลาต่อมา

เนื้อข่าวยังระบุว่า Kenneth Arnold มีความทรงจำที่เข้าใจผิดและเหลวไหลเพราะ
คำถามจากนักข่าว ต่อข้อถามว่า วัตถุที่เห็นมีจำนวนเท่าใด คำตอบจาก Kenneth
Arnold คือ ไม่แน่ใจ แต่เหมือนจานที่กระดอนเหนือผิวน้ำ การเคลื่อนที่ของวัตถุ
จึงไม่เห็นรูปทรง ทั้งๆตนเองเป็นนักบินซึ่งควรเข้าใจอะไรมากกว่านี้

ภายหลังผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์การเห็นของ Kenneth Arnold เป็นวัตถุ ดาวตก
(Meteors) ตกสู่โลกมีแสงลากยาวพาดผ่านท้องฟ้า จากอนุภาคที่ถูกเสียดสีกับ
ชั้นบรรยากาศ
Kenneth Arnold ผู้เห็นจานบิน
บันทึกต้นฉบับ รูปทรงการเห็น ของ Kenneth Arnold
20
ความคิดเรื่องมนุษย์ต่างดาว เมื่อ 50 ปีที่แล้ว

แม้ว่าจะเป็นความเข้าใจผิดต่อจิตนาการทั่วไป ว่ามนุษย์ต่างดาวต้องมีพาหนะแบบ
จานแบนๆ และมีการสื่อสารอย่างลับๆ กับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ทั้งสองกรณีชักนำ
เป็นเหตุผลต่อความคิด มาตลอดนับหลายสิบปี ในเรื่อง UFO ต่อผู้คนมากมาย

และเนื่องจากกองทัพ ให้ความสนใจกับเรื่องสงครามเย็น และมีความกังวลต่อ
ประเภทยานบินชนิดใหม่ โดยสหภาพโซเวียตพัฒนาขึ้น

ปี ค.ศ.1950-1960 คณะทำงานด้านปรัชญา กองทัพอากาศสหรัฐฯ ทำการศึกษา
รายงาน UFO จำนวนมากพบว่า ประเภท UFO ส่วนใหญ่ที่ผู้คนเห็นเป็นวัตถุเช่นดาว
ที่มีความสว่างหรือดาวเคาระห์ ดาวเทียม บอลลูน การยิงจรวด นก ฟ้าแลบ ดาวตก หรือ ปรากฎการณ์ด้านอากาศ และภาพลวงตา คละกันไป

โดยผู้เห็นไม่สามารถอธิบายได้ว่าเห็นอะไร แต่ทั้งหมดลงเอยเชื่อว่าสิ่งที่เห็นคือ
UFO ด้วยเหตุผลว่า ศตวรรษที่ 18 สหภาพโซเวียตมีความสามารถสูงสร้างจานบิน
ได้หรือ เข้าใจว่าเป็นวัตถุที่มาจากโลกอื่น หลังจากนั้นกองทัพอากาศจึงยุติการสืบ
สวนในเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตามบางกรณีเชื่อว่าการสอบสวนไม่สมบูรณ์ หรือมีอุบายปิดบังจากรัฐบาล
สหรัฐฯ ไม่ให้ประชาชนทราบ ว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลก

หลักฐานที่คนส่วนใหญ่เชื่อ

จากสัญญลักษณ์แสดงของ UFO (จำนวนมากปรากฎจากภาพถ่าย วีดีโอ เกิดจาก
ฝีมือมนุษย์ด้วยเทคนิคต่างๆ) โดยเป็นการอุปโลกน์ที่ดีและเหมือนจริง 90% ของ
หลักฐาน ส่งผลให้คนทั่วไปเชื่อถือ ส่วนอีก 10 % ที่เหลือคำอธิบายไม่ชัดเจนคลุม
เครือและไม่มีคำอธิบายเรื่องยานมนุษย์ต่างดาว

แม้แต่ปัญหาคดีฆาตกรรมในอเมริกา ที่ไม่สามารถหาผู้กระทำความผิดได้ ยังโยน
ความผิด ไปในเรื่องมนุษย์ต่างดาวบุกรุกและฆ่าทำลาย

หลักเกณฑ์ที่ยังไม่ยุติจากนักวิทยาศาสตร์

โดยกฎเกณฑ์การเห็นหลักฐานปัญหาของ UFO หากใช้วิทยาศาสตร์ตรวจสอบใน
เรื่องปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ (Nature of modern science) ซึ่งเป็นชนวนเหตุเบื้องต้น

โดยสมมุติถ้าุ่มนุษย์ต่างดาวแสดงขึ้นโดยเงื่อนไขเป็นไปแบบธรรมชาติ และหาก
เกิดขึ้นเช่นนั้นจริง การอ้างอธิบายถึงวัตถุบินได้ (UFO) ก็จะไม่ต่างไปจากเทพเจ้า
ต่างๆหรือวิญญาน หรือเทพเจ้ากรีก เป็นสิ่งที่คิดให้เป็นจริงเหนือความเป็นธรรมชาติ

เป็นเรื่องที่พูดง่ายๆแต่ไม่เห็นความเป็นจริง ของความเป็นหลักธรรมชาติอยู่ภายใน เราสามารถเรียนรู้ บางอย่างเพื่อสร้างรูปแบบ ปรากฎการณ์ของ UFO และทดลอง
กฎเกณฑ์ เพื่อการสำรวจอย่างจริงจัง ในแบบต่างๆเพื่อให้แตกต่างจากรายงานอื่น

หนึ่งในประเด็นนั้น มีความยุ่งยากรูปแบบการทดลองรูปแบบเครื่องยนต์ ที่จะแสดง
ให้เห็นว่า สามารถเดินทางข้ามจักรวาลได้ หรือมีคุณสมบัติที่ลึกลับ ทั้งหมดจึงถูก
ทิ้งค้างไว้ เหลือแต่รายงานจากการเห็นและมีการโต้แย้งกันตลอดมา

ดังนั้นรายงานจึงไม่สมเหตุสมผลนัก ส่วนใหญ่รายงาน UFO ไม่มีอะไรมากไปกว่า
มีผู้พบเห็นวัตถุจากท้องฟ้า และไม่สามารถ บอกประเภทได้หรืออธิบายไม่ได้

แต่ถ้าวัตถุนั้นไม่มีประเภท ก็ไม่มีหลักฐาน ทำให้การทำรายงานไม่สามารถกระทำ
ได้อย่างถูกต้องและแจ่มแจ้ง ว่ายานของมนุษย์ต่างดาว ประดิษฐ์จากสิ่งใด

หากต้องการพิสูจน์ว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาเยี่ยมเยือนโลกจริง อาจต้องหาหลักฐาน
แสดงสสารมากกว่าสถานะของแข็ง ที่พบบนโลก
ภาพถ่ายนี้ อ้างว่าถ่ายโดยนักบินอวกาศของนาซ่า Ken Mattingly, Charlie Duke และ
John W. Young. จากยาน Apollo 16 ขณะโคจรสำรวจดวงจันทร์
อะไรที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวเยือนโลก

การตรวจพิจราณาไล่เรียงอย่างเป็นหลักการ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำได้จาก
ภาพถ่ายเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดี ซึ่งมักมีข้อแตกต่างจากการพบเห็น หากไม่ใช่เป็น
การทำจากฝีมือมนุษย์แล้ว นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ปรากฎการณ์ เรื่องมนุษย์ต่างดาวเยือนโลก ที่อ้างสืบกันมานั้นถูก
โต้แย้งการพินิจพิเคราะห์ด้านวิทยาศาสตร์ จากเรื่องที่โด่งดังและมีชื่อเสียง เช่น
Roswell
กรณีที่ 1 ความหายนะของมนุษย์ต่างดาว ที่ Roswell

เป็นกรณีทีโด่งดัง อันเกิดจากการกระทำปลอมปนขึ้นเรียกว่า กรณี Roswell เกิด
ขึ้นใน ค.ศ. 1947 หลังจากไม่กี่สัปดาห์ ที่ Kenneth Arnold พบจานบินบนท้องฟ้า

ชาวไร่พบซากปรักหักพังบางอย่าง กองตกอยู่ในทุ่งหญ้าใกล้เมือง Roswall ,New
Mexico จากรายงานของนายอำเภอท้องถิ่น ภายหลังว่ามีใครบางคนกล่าวว่าใน
แฟ้มเอกสารของกองทัพ อากาศสหรัฐ ระบุว่าสิ่งนั้นคือ จานบิน (Flying disk)

เรื่องตื่นตระหนกแพร่สะพัดเพียงไม่กี่วัน กองทัพอากาศสหรัฐ Fort Worth,Texas
ได้แถลงข่าวว่าสิ่งดังกล่าว คือ บอลลูนตรวจสภาพอากาศ (Weather baloon)
โดยแสดง หลักฐานประกอบในเวลาต่อมา

ครั้น ค.ศ. 1978 เรื่อง UFO กรณี Roswell ปรากฎขึ้นอีกโดยการสืบจาก Stanton
Friedman และกล่าวอ้างว่าเป็นซากจากอุบัติเหตุของ ยานจากต่างดาว แต่รัฐบาล
ปกปิดความจริง

การอ้างในบันทึกของ Stanton Friedman เรื่องนี้อาศัยระเบียบแบบแผนการเห็น
จากท้องฟ้า จึงเป็นเรื่องที่ยากต่อการแสดงชี้ชัดทางหลักฐาน เพราะการจดจำจาก
ระยะเวลาที่นานมาก ของผู้เห็นเหตุการณ์ ทำให้เกิดข้อแตกต่าง และเห็นแย้งกัน
เช่น บางคนเห็นเป็นจาน บางคนเห็น เป็นแบนๆเป็นเส้น

รูปแบบพยานจึงไม่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ ว่าเป็นวัตถุบางอย่างที่มาจากต่างดาว
ในความเป็นจริง ถ้ามีจริง เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามากจากไหน เพราะเพียงเห็นบนท้อง
ฟ้าจากลักษณะสันฐานไม่คุ้นเคย การสรุปผลว่าจานบินต่างดาวจึงไม่เป็นกฎเกณฑ์
ทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในกรณีนี้

แต่ถ้าซากดังกล่าวไม่เป็นวัตถุจากต่างดาว และไม่ใช่เป็นบอลลูนตรวจอากาศตาม
ที่กองทัพอากาศอ้าง แต่แฟ้มของรัฐบาลบันทึกไว้ว่า ความลับของรัฐบาล เรื่องการ
ออกแบบ บอลลูนทดลองการตรวจจับอาวุธ Nuclear ของสหภาพโซเวียต และอยู่
ในชั้นความลับต้องปกปิดของโครงการชื่อ Mogul ซึ่งมีแนวคิดการตรวจจับจากที่
สูงบนท้องฟ้าเหนือ ชายแดนสหภาพโซเวียต ด้วยวิธีฟังคลื่นเสียงที่เกิดจากการพุ่ง
แวกอากาศออกมา ได้ทดลองบริเวณ Roswell ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 เป็นต้นมา

โดยมีนักวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่าซากดังกล่าวคือ เครื่องมือและอุปกรณ์ของตนจาก
ภาพถ่ายที่บันทึกของกองทัพอากาศ
บอลลูนตรวจสภาพอากาศ หรือ บอลลูนทดลองการตรวจจับอาวุธ Nuclear ?
สำหรับซากร่างกายมนุษย์ต่างดาว เชื่อว่าเป็นการกล่าวอ้างด้วยเหตุผลเป็นสถาน
ที่ปกปิด การทดลองบางอย่างที่เป็นเรื่องลับ เช่น ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด บริเวณพื้นที่
ล้อมด้วยลวดไฟฟ้า ซึ่งเป็นระเบียบด้านความมั่นคง

แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์ นักการทหาร เจ้าหน้าที่เข้าออกนับพันคน ตลอด 60 ปี เห็น
ความลับต่างๆ บางคนที่ไม่ปราถนาดีอาจสร้างหลักฐานบางอย่าง เพื่อให้เกิดความ
น่าเชื่อกับคำกล่าวอ้างให้มากขึ้น ในเรื่องมนุษย์ต่างดาวส่งผลเสียต่อรัฐบาลสหรัฐฯ
ให้หมดความเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

บางกรณีที่มีผู้เห็นเหตุการณ์ว่า มนุษย์ต่างดาวเดินออกมาจากยาน ข้อเท็จจริงใน
เรื่องนี้เป็นเรื่องกุขึ้น เพื่อสนับสนุนเหตุผล เรื่องยานและซากของมนุษย์ต่างดาว
และโน้มน้าว ให้น่าเชื่อตลอดเป็นสิบๆปี

เป็นธรรมดาของการอ้าง ที่ไม่ต้องพิสูจน์ โดยขบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรารู้ว่า
สิ่งที่เห็นมีความยากอันจะเปลี่ยนแปลงความคิด ไม่ว่าเป็นเรื่องอุปกรณ์ของรัฐบาล
สหรัฐฯ จากภายถ่ายที่บันทึกไว้

เพราะผู้สนใจเรื่องเหล่านี้ ได้ให้น้ำหนักความเชื่อไปแล้วว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาเยือน
โลกด้วย UFO แม้แต่บุคคลที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวก็เข้าใจผิดและคลั่งเรื่องจานบิน
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แต่ทั้งหมดนั้น ข้อเท็จจริงเป็นความเสียหาย ของอุปกรณ์ที่ตก
ลงมาของกองทัพอากาศเท่านั้น





มนุษย์ต่างดาว ที่กล่าวอ้างกรณี Roswell
 
 
กรณีที่ 2 วงกลมปริศนา และการลักพาตัว

ความหายนะ UFO ของมนุษย์ต่างดาวที่ Roswell ถูกสงสัยถึงคำอธิบายต่างๆจึง
ไม่สามารถพาดพิงไปในแง่ความสำเร็จให้มีน้ำหนักพอ เรื่องการเยือนโลกของ
มนุษย์ต่างดาวได้สมบูรณ์นัก

เพื่อให้มีความเป็นจริงต่อการเปิดเผย สู่สาธารณชน เพื่อให้เกิดการพิสูจน์ เรื่อง
เห็นมนุษย์ต่างดาวซึ่งหน้า ในฐานะเพื่อนบ้าน เช่น การลักพาตัว (Abductions)
หรือวงกลมปริศนา (Crop circles) และอีกหลายเรื่อง เช่น ปรากฎการณ์ทำลาย
ปศุสัตว์ในฟาร์มวัว และกัดกินแพะ เป็นต้น

วงกลมปริศนา เกิดขึ้นครั้งแรกในอังกฤษ รูปแบบใช้หลักเกณฑ์ทางเราขาคณิต
เพื่อเจตนาให้เห็นเป็นลักษณะความสามารถ สื่อความหมายจากต่างดาว โดยเป็น
การติดต่อด้วยวิธีสากลสู่มนุษย์ ให้ทันสมัยขึ้นตามยุค

แต่เมื่อพิสูจน์แล้วผลคือ การกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือ มนุษย์ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการ
กระทำที่ไม่ยาก ช่วงไม่เกินข้ามคืน เป็นการเล่นตลก มิใช่ข้อความจากต่างดาว

ประดิษฐกรรมที่เกิดขึ้นบนทุ่งหญ้า มีมากขึ้นเรื่อยๆ การออกแบบมีความซับซ้อน
น่าเชื่อมากขึ้นตามลำดับ เพื่อให้เกิดการตีความที่พิศดารออกไป หนึ่งในผู้เชี่ยว-
ชาญการสร้างวงกลมปริศนา ยอมรับว่าต้องการเล่นตลก

 
วงกลมปริศนา
 
 
สัตว์ที่ถูกฆ่าหาสาเหตุไม่ได้ โดยเลือดแห้งเหือดหมด
 
 
เพื่อให้เกิดการกล่าวขวัญถึง มนุษย์ต่างดาว สำหรับกรณีการฆ่าปศุสัตว์ หรือทำให้
สัตว์พิการ (2 ขาคู่หน้า) เรียกว่า Chupacabras (ปีศาจดูดเลือด) เหตุจากความเชื่อ
ว่าในอดีตนานมาแล้วนับร้อยปี ปศุสัตว์แห่งหนึ่ง ถูกโจมตี โดยสัตว์ผู้ล่าเหยื่อ ซึ่งไม่
แน่นักว่าเป็นการเริ่มต้นกล่าวอ้างเรื่องมนุษย์ต่างดาว หรือใครเป็นผู้ฆ่า แต่เมื่อไม่มี
การยืนยันทั้งหมดจึงเป็นเหตุอ้างการกระทำของมนุษย์ต่างดาว

มีปรากฎการณ์ที่ประหลาดพาดพิง อ้างเรื่องมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว ทั้งหมดมักมี
อัตราการเกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ประชากรน้อย หลักฐานจำนวนหนึ่งในอเมริการะบุ
ว่าการลักพาตัว เกิดขึ้นแบบหลบๆซ่อนๆเสมอ ในขณะนอนหลับ (เป็นข้ออ้างเพื่อ
ไม่ให้เกิดความเอะอะอึกทึก) และเหยื่อผู้ถูกลักพา มักจะตื่นขึ้นบนยานมนุษย์
ต่างดาว เห็นบางอย่างในห้องที่มีเครื่องมือ แปลกๆ และมีรูปแบบถูกยึดให้นอน
คอยบนเตียง

การอ้างยากจะตรวจสอบ แต่มักแสดงว่าประหลาดที่คล้ายคลึงกัน มีตัวแปรระหว่าง
ช่วงเวลาของยุควัฒนธรรมมาเกี่ยวข้อง เช่น เป็นจำเลยของแม่มด หรือปีศาจในยุค
โบราณก่อนหน้านี้

แต่วันนี้เป็นการอ้างว่าถูกนำไปทดลอง จากมนุษย์ต่างดาว โดยนักจิตศาสตร์ให้ข้อ
วิเคราะห์ว่าประสบการณ์ การลักพาตัวขณะหลับ เกิดจากการหลับ ในระดับ Sleep
paralysis (การหลับแบบอัมพาต) ทำให้เกิด REM (Rapid eye movement) ลูกตา
กลอกไปมาอย่างรวดเร็ว เป็นระยะที่มีความฝันมากที่สุด เป็นไปตามธรรมชาติของ
ความอ่อนเปลี้ย บางครั้งเกิดขึ้นหลังตื่นไม่มีกี่นาที จากการเริ่มกระตุ้นของสมอง

จึงทำให้ผู้นั้นอยูในสถานะเกิดเหตุการณ์ได้ รวมทั้ง สามารถให้เกิดจินตนาการไป
ในเรื่อง การลักพาตัวของมนุษย์ต่างดาว ข้อมูลการหลับแบบ Sleep paralysis
มีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งในการดำเนินชีวิตมนุษย์

จึงเป็นเหตุผลต่อการอธิบายว่า มีความเป็นไปได้ต่อการจินตนาการไปเกี่ยวข้องกับ
มนุษย์ต่างดาวสักครั้งหนึ่ง ในการลักพาตัว กรณีฝันกลางวัน จาก Sleep paralysis
สามารถเกิดได้เช่นกัน ในทางวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายมากและอ้าง อย่างเป็นจริงเป็นจังเหตุเพราะเกิดกับตนเอง
 
 
การลักพาตัว ที่มักอธิบาย อ้างเหตุคล้ายๆกัน
 
20
กรณีที่ 3 การมาเยือนของมนุษย์ดาวต่างครั้นโบราณ

ความเชื่อของคนส่วนใหญ่เรื่องมนุษย์ต่างดาว เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้นโบราณเดินทางมา
ด้วยยาน วันนี้ก็เช่นกัน หลายคนยอมรับไปแล้วว่ามนุษย์ต่างดาว เคยมาเยือนโลก
จริงๆ ความคิดบนโลกกรณีดังกล่าวฟังดูน่าจะเป็นไปได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารยธรรม ที่เจริญเกิดขึ้นในกาแล็คซี่ โลกให้ความสนใจต่อ
มนุษย์ต่างดาว แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า ยานต่างดาวนั้นเข้ามาศึกษาโลก เมื่อพัน
ล้านปีที่แล้ว หรือ บรมยุคกำเนิดโลก ก่อนพัฒนาการระบบมนุษย์หรือไม่

หรือเข้ามาศึกษามนุษย์หลังจากเกิดอารยธรรมแล้ว แต่มีผู้คนจำนวนหนึ่งอ้างว่า
กรณีมนุษย์ต่างดาวเยือนโลก มีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือ หลักฐานดังกล่าวคือ
การแสดงรูปแบบลายเส้น ที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวโลกสนับสนุน เหตุผลการมาเยือน
โลกของมนุษย์ต่างดาว เป็นตำแหน่งเห็นชัดจากอวกาศ สำหรับการลงจอดยาน

ทางโบราณคดี มีความประหลาดใจ จากข้อสันษิฐานต่อครื่องมือที่ใช้การกระทำ
ดังกล่าว การอ้างทางโบราณคดีด้วยความรู้เช่นนั้น ยังไม่สามารถที่จะเป็นข้อสรุป
เกิดจากฝีมือมนุษย์ต่างดาวเช่นกรณี ร่องรอยลายเส้นบนพื้นของ Nazca desert
ในประเทศเปรู

แม้การอ้างถึง ปีรามิดของอีจิปย์ ไม่มีอะไรมากกว่าการสบประมาทความสามารถ
ของคนโบราณที่ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ซึ่งปีรามิดเป็นลักษณ์แห่งความสำเร็จ
ด้วยด้านเทคนิค และความชำนาญของอาณาจักรกษัตริย์โบราณ

ทั้งหมดเรารู้ว่าเป็นโครงสร้างสิ่งโบราณ รวมถึง กองหินประหลาดที่สโตนเฮนจ์ (Stonehege) ในอังกฤษ และ Mayan Pyramids ในอเมริกาโดยใช้หินขนาด
ใหญ่มีเทคนิคสร้างสรรค์เฉพาะแต่ละวัฒนธรรม

ในความคิดที่นำไปสู่การอ้างนั้น เป็นความพยายามจะใช้โบราณสถานที่สร้างด้วย ฝีมือมนุษย์ เป็นเหตุผลสนับสนุนเรื่องมนุษย์ต่างดาว เมื่อได้นำมาศึกษาอย่างพินิจ
พิเคราะห์ในเชิงวิทยาศาสตร์แล้ว พบว่าการอ้างดังกล่าวยังคลุมเครือ
 
 
Nazca desert ในประเทศเปร
 
 
Mayan Pyramids ในประเทศสหรัฐอเมริกา
 
 
(Stonehege ในประเทศอังกฤษ
 
 
กรณีใดเป็นการปรากฎของมนุษย์ต่างดาว

ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง แต่มีความขาดแคลนต่อการแสดงข้อมูล
ยืนยัน จากที่ผ่านมาจนปัจจุบัน ด้วยเพราะสองประเด็นใหญ่คือ

1.ถูกปกปิดข้อมูลโดยรัฐบาล (อเมริกา)
2.มีข้อขัดข้องต่อหลักการวิทยาศาสตร์ ที่จะให้ประชาคมมีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้อง
เพื่อเข้าใจแต่ละปรากฎการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง

จึงเป็นเงื่อนไขทำให้มีช่องว่าง และมีรายละเอียดต่างๆน้อยมาก กลอุบายที่รัฐบาล
สหรัฐอเมริกาใช้ปกปิดต่อประชาคมโลก เป็นเรื่องผิดปกติโดยเฉพาะในสหรัฐฯเอง
แน่นอนยิ่งมองเห็นความเป็นไปได้ เรื่องมนุษย์ต่างดาวมีน้ำหนัก

กลายเป็นแรงจูงใจเห็นความไม่โปร่งใส และเป็นเรื่องปกติที่สาธารณะเมื่อไม่ได้รับ
ข่าวสารจากรัฐบาล จำต้องสืบค้นความลับให้ประจักษ์ในด้านต่าง แม้แต่ประดิษฐ์
กรรมเครื่องบินที่ปกปิด ที่ออกแบบหรือปรับปรุงใหม่โดยรัฐบาล อาจถูกนำไปกล่าว
ขวัญถึงยานมนุษย์ต่างดาวในที่สุด

ครึ่งหนึ่งของประชาคมโลกเชื่อข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ว่ามนุษย์ต่างดาวมาเยือน
โลกยิ่งจะทำให้ตกใจได้ขึ้นไปอีก หากเกิดจู่ๆเป็นข่าวที่น่ากลัว จากเหตุหนึ่งเหตุใด

สำหรับเครื่องยนต์ กลไกของยานมนุษย์ต่างดาวนั้นยากจะนึกออกว่ามีลักษณะ
เช่นใดจึงมีความสามารถเดินทางข้ามระหว่างจักรวาลได้ เพราะด้วยระยะทางนับ
ร้อยนับพันปีแสง และระหว่างทางเต็มไปด้วยอุปสรรค เช่น หลุมดำ แรงโน้มถ่วง
ที่เป็นรอยต่อระหว่างระบบดาว สสารมืดที่มีทั่วไปถึง 70% กลุ่มอุกกาบาต หรือ
เรื่องเชื้อเพลิงพลังงาน การดำรงชีพตลอด ระยะการเดินทาง เป็นต้น

เพราะฉะนั้นระบบเทคโนโลยีคงไม่เหมือนบนโลกที่เข้าใจแน่ และทำไมยานมนุษย์
ต่างดาวต้องลงจอด เฉพาะในสหรัฐอเมริกาหลายครั้งเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งสร้างความ
สงสัยว่าเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของมนุษย์ต่างดาว จากข้อกล่าวหา

กระทั่งมีการอ้างขึ้นอย่างไม่รู้ โดยความเป็นจริงนักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ลดล่ะต่อ
เรื่องนี้ เหตุผลซึ่งอธิบายได้คือ มีการติดตามปรากฎการณ์แปลกๆและสำคัญเสมอ
แต่เมื่อพิสูจน์แล้ว ไม่เคยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว

เพราะแม้แต่ลูกเห็บตกจากท้องฟ้า นักวิทยาศาสตร์ก็ต้องเฝ้าติดตาม ตลอดเวลา
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จำต้องแสดงเหตุอย่างประจักษ์แจ้งในทางกายภาพ ถ้า UFO
หรือมนุษย์ต่างดาวเข้ามาสู่โลกจริง เรดาห์ระบบของสนามบินทั่วโลกสามารถ
ตรวจจับและรายงานวัตถุลึกลับนั้นได้ทันที หรือระบบดาวเทียมจำนวนมากของ
หลาย ประเทศก็ตรวจจับได้

นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ จำนวนนับ ร้อยหลายที่
เฝ้าคอยตรวจสอบท้องฟ้าทั้งกลางวันและกลางคืน อย่างไม่เคยหลับ แต่ก็ไม่เคย
พบและพิสูจน์ได้ว่าเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว

ยังไม่เคยมีห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ในโลกที่หนึ่งที่ใด ที่ได้รับชิ้นส่วนแม้
แต่ชิ้นเดียวเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว เพื่อทำการวิเคราะห์ ซึ่งที่ผ่านมากองทัพ
อากาศสหรัฐฯ สามารถเก็บตัวอย่างชิ้นส่วน เรียกว่า Space junk (ขยะอวกาศ)
ได้แล้วมากกว่า1,000 ชิ้น จากสถานีอวกาศสากล จากดาวเทียมที่หมดสภาพการ
ใช้งานและดาวเทียมที่ใช้งานปกติ แต่ยังไม่เคยพบชิ้นส่วนใดๆที่แสดงถึงหรือเกี่ยว
ข้องกับ มนุษย์ต่างดาวเลย

อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ ยังมีความหวังและเชื่อว่าสักวันหนึ่งอาจมีมนุษย์ต่าง
มาเยือนโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ใฝ่ฝันที่จะต้อนรับเช่นกัน ซึ่งจะได้รู้ว่า
มนุษย์ต่างดาวนั้น มีความฉลาดรอบรู้ หรือหน้าตาเป็นอย่างไร แม้ว่าเป็นเรื่องยาก
จะเกิดขึ้นก็ตาม

หลายประเด็น แสดงเหตุผลอย่างเลื่อนลอย ไม่ใช่เพราะเลื่อนลอย แต่หมายความ
ว่าขาดแคลนพยานหลักฐานที่ประจักษ์แจ้ง ทำให้การอ้างขาดน้ำหนัก ความเชื่อถือ

แต่ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกจริง แต่ขาดพยานหลักฐานเพราะ ไม่ต้องการให้
มนุษย์รู้ และบางคนเชื่อว่ามีจริง ก็ไม่สามารถหยุดความเชื่อนั้นได้ เพียงแต่จะไม่
สามารถอ้างอิง บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ได้เท่านั้น

ข้อสรุป ความสำคัญอยู่ที่การแบ่งแยกระหว่าง ข้ออ้างและมนุษย์ต่างดาว ที่เข้ามา
เยือนโลก (หรือเคยมาในอดีต) และความเป็นไปได้ของอารยะธรรมที่มี หลังจาก
สงครามโลกครั้งที่ 2 การท่องอวกาศมีความเป็นจริงขึ้นเพราะเหตุใด

นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากทดลองจนสำเร็จเป็นจริง และการท่องของโลกอื่นก็ย่อม
เป็นไปได้เช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีและอารยธรรม แม้วันนี้โลกเพียงมีความสามารถ
เดินทางสู่ดวงจันทร์ได้ อนาคตอาจสู่ถิ่นฐานที่ไกลขึ้น แม้ยังมีข้อโต้แย้งมากมาย
แต่เวลาที่ผ่านไปและมีอารยะธรรมเกิดขึ้นเป็นไปแบบปกติ อาจมีหนทางเดินทาง
สู่ดาวอื่น และดาวอื่นก็มีหนทาง มาสู่โลกเช่นกัน

แม้จะอธิบายยาก เพราะหลักฐานน้อย แต่ก็พอจะนำมาขยายความ ในหัวข้อเรื่อง
ต่างดาวภาคพิศดาร (Alien & Extraterrestrial Intelligence) โดยมีเจตนาแสดง
เหตุผล เพื่อความกระจ่างได้ในบางประเด็น เท่าที่สามารถอธิบายได้ เชิงทฤษฎี
และอาจมีความเป็นไปได้
 
 
ต้นแบบยานของ NASA ออกแบบคล้าย UFO สำหรับสำรวจดวงจันทร์
 
 
 
References :

University of Colorado at Boulder 
 
 
ที่มา : http://sunflowercosmos.org/report/report_main/ufo_1.html
 
         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น