ปรากฏการณ์นี้เป็นต้นเค้าของการ
สร้างรูปรอย 'วงกลมธัญพืช' โดยพวกมือบอนเมื่อทศวรรษ 1970
คนในวงการนักค้นคว้าเรียกมันว่า "รังจานบินทัลลี" หรือ Tully Saucer Nest
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 9 โมงเช้าของวันที่ 19 มกราคม 1966
เป็นวันที่อากาศสงบ ท้องฟ้าโปร่ง ขณะที่ชาวสวนกล้วยวัย 28 ปี ชื่อ จอร์จ
เพ็ดลีย์ กำลังขับรถแทรกเตอร์อยู่ในบริเวณทะเลสาบฮอร์สชู
ซึ่งเป็นที่ดินของนายอัลเบิร์ต เพนนีซี ใกล้กับเมืองทัลลี่
ทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย เขาได้ยินเสียงหึ่งๆ"ทัน
ใดนั้น วัตถุอย่างหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากบึงนั่น ตอนผมหันไปมอง
มันอยู่สูงเท่ายอดไม้แล้ว รูปร่างมันเหมือนจานขนาดใหญ่ สีเทาๆ
ส่วนบนกับส่วนล่างนูน กว้างราว 25 ฟุต สูง 9 ฟุต
ขณะที่ผมจ้องดูมันขึ้นสูงไปอีก 30 ฟุต หมุนเร็วมาก มันทิ้งตัวลงหน่อยนึ่ง
แล้วบินผละไปด้วยความเร็วสูง ทำมุม 45 องศา
ลับสายตาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ในเวลาไม่กี่วินาที.."
เพ็ดลีย์ต้อง
ประหลาดใจอีกครั้งเมื่อไปถึงจุดที่วัตถุนั้นพุ่งขึ้นมาในทะเลสาบนั้นมีที่
ว่าง รูปวงกลมขนาดใหญ่ซึ่งไม่มีต้นอ้อเลย ผิวน้ำยังหมุนวนช้าๆ
ตอนที่เขาผ่านตรงนั้นก่อนหน้านั้นสามชั่วโมง ตรงนั้นยังเป็นดงอ้ออยู่แท้ๆ
เขากลับขึ้นรถแทรกเตอร์แล้วขับออกไปในช่วงบ่าย
เพ็ดลีย์กลับไปดูจุดนั้นอีกครั้ง คราวนี้สภาพเปลี่ยนไปแล้ว
มีต้นอ้อสดสีเขียวลอยเป็นวงกลมแทนจุดเดิม เรียงตัวในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
เส้นผ่าศูนย์กลางราว 30 ฟุต
คราวนี้เขาตื่นเต้นจนรีบไปบอก
เรื่องนี้กับเจ้าของที่ดินกับเล่าให้เพื่อนอีกคนฟัง
เพนนีซีบอกว่าวันนั้นหมาของเขาก็มีอาการแปลกๆ มันเห่ากระโชก
แล้ววิ่งไปทางทะเลสาบตอนตีห้าครึ่ง
เมื่อเพนนีซีไปดูจุดเกิดเหตุพร้อมชายอีกคนหนึ่งก็ต้องแปลกใจกับกลุ่มต้นอ้อ
รูปวงกลมที่เห็น เมื่อลุยน้ำเข้าไปดูใกล้ๆ
พวกเขาก็พบว่าข้างใต้นั้นไม่มีราก และพื้นทะเลสาบตรงนั้นก็ราบเรียบ
ที่น่าฉงนก็คือ
ส่วนขอบนอกของกลุ่มต้นอ้อนี้ลู่ลงเหมือนรูปจานที่วางคว่ำทับลงไป
เพนนีซีกลับไปเอากล้อง พอกลับมาถ่ายรูป
ต้นอ้อส่วนที่อยู่บนสุดก็เริ่มแห้งเป็นสีน้ำตาลแล้ว เย็น
นั้น จอร์จ เพ็ดลีย์ แจ้งเรื่องนี้ให้ตำรวจเมืองทัลลีทราบ
ซึ่งหลังจากตำรวจได้มาดูที่เกิดเหตุในวันต่อมาก็ได้แจ้งเรื่องต่อไปยังกอง
ทัพอากาศของออสเตรเลียในเวลาไม่กี่วัน เรื่องนี้ก็กลายเป็นข่าวดัง
มีการเสนอทฤษฎีอธิบายสาเหตุต่างๆ กันไป บ้างว่าเป็นฝีมือของเฮลิคอปเตอร์
บ้างว่าเกิดจากนกตัวใหญ่ๆ จระเข้ พวกแมลงที่กินต้นอ้อ ไปจนถึงลมหมุน
ช่วง
นั้นมีการพบ "รัง" อื่นๆ อีก 5 แห่ง ซึ่งมีขนาดย่อมกว่า
บางแห่งกองต้นอ้อเรียงตัวในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
สองแห่งมีรอยไหม้เกรียมตรงกลางของรัง
มีการส่งตัวอย่างจากรังแห่งแรกไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ที่ผิดปกติก็คือ ต้นอ้อเหล่านั้นจะแห้งเป็นสีน้ำตาลในเวลาแค่ 8 ชั่วโมง
ซึ่งโดยทั่วไปจะกินเวลาราว 3 วัน ที่แปลกอีกอย่างคือ อัลเบิร์ต เพนนีซี
เจ้าของที่ดิน บอกกับหนังสือพิมพ์เดอะซันของออสเตรเลียว่า
เขาฝันเห็นยูเอฟโอลงจอดบนที่ดินของเขามาเป็นสัปดาห์ก่อนหน้านั้น"ผมฝันเห็นมันเกือบทุกคืน ฝันอย่างเดียวกันทุกครั้ง"
ปรากฏการณ์ที่ทะเลสาบฮอร์สชูคืออะไรกันแน่?
ไม่มีหลักฐานว่ามีเฮลิคอปเตอร์บินไป
แถวๆ นั้นในวันนั้น จระเข้ก็ไม่ทำรัง
ตัวอย่างต้นอ้อที่ส่งไปวิเคราะห์ก็ไม่พลแมลง
ไม่มีนกชนิดไหนทำรังขนาดใหญ่อย่างนั้นในเวลาแค่สามชั่วโมงแน่นอนกองทัพอากาศ
ออสเตรเลียบอกว่า มันเกิดจากลมหมุนขนาดเล็ก
ซึ่งมักเกิดในบริเวณนั้นมีการอธิบายกันว่า
ลมหมุนเป็นตัวการทำให้ดงอ้อราบลู่ลง และดูดเอาเศษวัสดุต่างๆ ลอยขึ้นไป
ทำให้มองเห็นเหมือน "จานบิน" เสียงหึ่งๆ ที่ว่านั้นก็คือเสียงลมนั่นเอง
และการที่กอต้นอ้อเรียงตัวเป็นรูปตามเข็มนาฬิกาก็สอดคล้องกับทิศทางของลม
หมุน
อย่างไรก็ตาม นักค้นคว้าเรื่องจานบินแย้งว่า โดยทั่วไปแล้ว
ลมหมุนมักเกิดในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดในช่วงฤดูฝน
แต่วันนั้นท้องฟ้ามีแดดออก
และแทบไม่มีลมพัดเลยวัตถุสีเทาที่เพ็ดลีย์พูดถึงก็มีลักษณะเหมือนจานคว่ำ
ประกบกัน ซึ่งเศษใบไม้ใบหญ้าที่เกิดจากลมหมุนพัดพาคงไม่มีรูปร่างอย่างนั้น
แล้วในบริเวณนั้นก็ไม่มีเศษใบไม้ใบหญ้าที่ปลิวกลับลงมาหลังจากกระแสลมคลาย
ตัวด้วย
ประการสุดท้าย
ทฤษฎีลมหมุนจะอธิบายได้อย่างไร ว่าทำไมตอนที่เพ็ดลีย์ไปดูครั้งแรกนั้น
ผิวน้ำตรงนั้นไม่มีต้นอ้อเลย
แต่กลับมีต้นอ้อลอยมารวมกันเมื่อเขากลับไปดูอีกครั้งในสามชั่วโมงให้หลังลม
หมุนหรือจานผี..แล้วแต่ใครจะเชื่อ!?!
ที่มา : http://www.thaipost.net/
http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=modx&topic=14&Cate=2
http://www.ufoevidence.org/cases/case65.htm
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หวัดดีจ้าแวะมาเยี่ยมจ้า ^^ //เดอะฟักทองอินเตอร์
ตอบลบเจิม... เช่นกัน !!
ตอบลบ( Cocopok )
ไม่อยากระบุชื่อ แต่ตามมาอ่าน
ตอบลบ(bbiggy)