วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

โซนเงียบแดนพิศวง





สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นดินแดนพิศวงที่คนทั่วโลกต่างรู้จัก แต่ในเม็กซิโกยังมีดินแดนสามเหลี่ยมอีกแห่งหนึ่ง ที่คนเม็กซิโกเรียกมันว่า "Zona del Silencio" หรือ "โซนเงียบแดนพิศวง"


เมื่อประมาณหนึ่ง พันล้านปีก่อน บริเวณแถบนี้เคยอยู่ใต้มหาสมุทร แต่ปัจจุบันกลายเป็นทะเลทรายร้างแห้งแล้ง ซึ่งช่วงกลางวันในหน้าร้อนนั้นอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส โซนเงียบที่ว่านี้ไม่มีเขตแดนที่แน่นอน แต่เสียงเล่าลือส่วนใหญ่บอกว่ามันกินอาณาบริเวณถึงเมืองดูรันโก แต่บางคนบอกว่ามีอยู่ในเมืองชิฮัวฮัว และพื้นที่บางส่วนของเมืองโคอาอุยลา หากดูในแผนที่ของเม็กซิโกจะพบว่ามีพื้นที่ชื่อ "Zona del Silencio" เป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายชิฮัวฮัว
ก่อนปี 1970 ผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักดินแดนพิศวงแห่งนี้กันนัก แต่ก็มีเรื่องเล่าประปราย เช่น ชาวนาบางคนบอกว่ามี "ก้อนกรวดร้อนๆ" ตกลงมาจากท้องฟ้า และเมื่อทศวรรษ 1930 นักบินคนหนึ่งชื่อ ฟรานซิสโก ซาร์เบีย เล่าว่า เครื่องรับส่งวิทยุหยุดทำงานไปเฉยๆ เมื่อบินผ่านบริเวณนี้      
ตาม ข้อมูลของ วอร์เรน สมิธ ในหนังสือ "ปริศนาโบราณแห่งพีระมิดชาวเม็กซิกันและมายา" นั้น โซนเงียบได้รับการสำรวจในปี 1969 โดยวิศวกรของบริษัทน้ำมันเม็กซิกัน ออยล์ คาร์เทล ผู้หนึ่ง ชื่อ แฮร์รี เดอ ลา พีนา ซึ่งได้เข้าไปศึกษาธรณีวิทยาเพื่อค้นหาแหล่งน้ำมัน

เขากับเพื่อน ร่วมทีมพบว่า วิทยุวอล์คกี-ทอล์คกีไม่ทำงานเวลาอยู่ในอาณาบริเวณขนาด 3 ตารางกิโลเมตร เขาเดาว่าข้างใต้นั้นคงมีแร่เหล็กที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก ทำให้คลื่นวิทยุสื่อสารถูกรบกวน บางครั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าก็เกิดลัดวงจร
และพื้นที่แถบนี้ยังมีอุกกาบาตตกบ่อยๆอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ แร่วิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งกรุงโรมได้รับตัวอย่างก้อนอุกกาบาต ซึ่งเป็นแร่เฮ็กซาฮีไดรต์จากพื้นที่แถบนั้นตั้งแต่ปี 1837 เจ้าก้อนนี้หนักอย่างน้อย 2,064 กิโลกรัมเลยทีเดียว
มีเรื่องเล่าว่า ในปี 1969 อุกกาบาตลูกหนึ่งชื่อ "อุกกาบาตอัลเยนเด" ได้เข้าปะทะดาวเทียมของรัสเซียดวงหนึ่ง แล้วโคจรรอบโลกก่อนจะตกลงมาในบริเวณดังกล่าว
เรื่องราวของโซนเงียบ ที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 1970 เมื่อฐานทัพทหารของสหรัฐที่แม่น้ำกรีน รัฐยูทาห์ ได้ทดสอบยิงจรวดเอเธนนา ที่จริงจรวดลูกนี้ควรจะตกในเขตทดสอบไวต์แซนด์ในรัฐนิวเม็กซิโก แต่ปรากฏว่ามันพุ่งเลยไปทางใต้อย่างน่าประหลาด กระทั่งตกในเขตโซนเงียบนี้
ฝ่าย สหรัฐได้ส่งทีมเข้าไปเก็บกู้อย่างลับๆ หลังจากค้นหาอยู่นาน สามสัปดาห์ ก็เจอมันปักหัวอยู่ในเนินทรายแห่งหนึ่ง จึงนำกลับไปยังสหรัฐ
ไม่กี่ปีให้หลัง จรวดนำส่งท่อนแรกที่ใช้ในโครงการอะพอลโลก็แตกระเบิดเหนือโซนเงียบนี้
ต่อ มาไม่นานรัฐบาลเม็กซิโกสร้างสถานีวิจัยขึ้นในบริเวณนั้น เรียกว่า "ไบโอสเฟียร์" มีนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกมาศึกษาธรณีวิทยา พืชและสัตว์ ในแถบนั้น
ที่น่าสนใจ เรื่องราวของโซนเงียบดูจะเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอด้วย
      ในเดือนตุลาคม 1975 สามีภรรยาคู่หนึ่งชื่อ เออร์เนสโต กับ โยเซฟินา ดิอาซ ขับรถเข้าไปในโซนเงียบนี้เพื่อหาก้อนหินแปลกๆ และซากฟอสซิล ขณะกำลังมองหาสิ่งที่ต้องการอยู่ในพื้นที่เปลี่ยวร้างบริเวณหนึ่ง ทั้งสองมองเห็นพายุฝนกำลังบ่ายหน้ามา จึงรีบกลับขึ้นรถปิกอัพขับกลับบ้าน แต่ฝนตามมาทันรถจึงติดหล่ม

ทันใดนั้น มีชายร่างสูงสองคนสวมชุดกันฝนสีเหลืองโผล่ออกมาจากม่านสายฝน อาสาช่วยเข็นรถให้กระทั่งขึ้นจากหล่มได้ ดิอาซลงจากรถเพื่อที่จะไปขอบคุณชายทั้งสอง แล้วก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่มองไม่เห็นใครเลย ไม่มีกระทั่งรอยเท้าบนพื้นที่แถบนั้นและยังมี "แสงประหลาด" ด้วย คนที่ขับรถผ่านตอนกลางคืนมักมองเห็นแสงแปลกๆ หรือลูกไฟลอยไปมา เปลี่ยนสีได้ บางทีลอยนิ่งๆ แล้วพุ่งจากไปด้วยความเร็วสูง พอย้อนกลับมาดูร่องรอยในตอนเช้าก็เห็นต้นไม้ไหม้เกรียม
เล่ากัน อีกว่าคนเลี้ยงปศุสัตว์ สองคนกลับจากงานเทศกาล แล้วมองเห็นแสงจ้าลอยลงมาจากท้องฟ้าตอนกลางคืน มีตัวอะไรไม่รู้รูปร่างเหมือนคน เรืองแสงได้ เดินเข้ามาหา ทั้งสองรีบเผ่นไม่เหลียวหลังในปี 1976 นักท่องเที่ยวคนหนึ่งถ่ายภาพยูเอฟโอลงจอดใกล้กับบริเวณที่เรียกว่า "เนินเขาแม่เหล็ก" ได้เป็นครั้งแรก ภาพถ่ายนั้นแสดงให้เห็นวัตถุสีเงินแวววาวเหมือนหม้อต้มสตูว์ ตอนมันบินขึ้นแล้วมุ่งไปทางตะวันตก นักท่องเที่ยวรายนี้ยังถ่ายรูปได้อีก 2-3 ช็อตด้วย
แต่ตัวประหลาดในเขตนี้ไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่อย่างใด พวกคนงานในไร่ปศุสัตว์แถบนั้นเล่าว่า บางครั้งมีอาคันตุกะร่างสูง ไว้ผมยาวสีบลอนด์ สามคนมาเยี่ยมเยือน พวกนั้นดูสุภาพ เป็นผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ชายสองคน แต่งตัวแปลกๆ พูดภาษาสเปน มาขอน้ำในบ่อโดยไม่ขออย่างอื่นอีก เมื่อถามว่าพากันมาจากไหน พวกนั้นยิ้มตอบเพียงว่า "จากเบื้องบน"พวกที่เชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวเชื่อว่า เรื่องเหล่านี้เป็นความจริง แต่คนที่ไม่เชื่อบอกว่าเป็นเพียงลูกไม้ของคนในท้องถิ่นที่จะดึงดูดนักท่อง เที่ยวมาซื้อของที่ระลึก




ที่มา :  http://filealien-46.blogspot.com/2011/07/la-misteriosa-zona-del-silencio-mexico.html
www.kapook.com/content/publish/article_12835.shtml
http://www.ict.mbu.ac.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=215&Itemid=41

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น