วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ยานสำรวจดวงอาทิตย์จับภาพวัตถุคล้ายจานบินได้

นอกจากดาวพุธและดาวศุกร์แล้วยังมีวัตถุลึกลับบางอย่างคั่นกลางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์"

    ดาวเทียมสำรวจดวงอาทิตย์จับภาพวัตถุลึกลับที่มีรูปร่างเหมือนจานบินได้แต่นาซ่ากลับปฏิเสธพร้อมทั้งดึงเอาภาพถ่ายเหล่านั้นออกจากแฟ้ม


วันพุธที่ 24 มิถุนายน 1998 เวลา 7:16 น. ดาวเทียมสำรวจดวงอาทิตย์โซโห (SOHO - Solar and Heliospheric Observator) ที่สร้างโดย NASA และ ESA (European 
Space Agency) ได้ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมอย่างกระทันหัน โดยไม่ทราบสาเหตุ

ดาวเทียมโซโหถูกส่งขึ้นท้องฟ้าในระดับความสูง 1.5 ล้านกิโลเมตรเมื่อเดือนธันว่าคม 1995 เพื่อปฏิบัติภาระกิจสำรวจดวงอาทิตย์ โดยใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ 11 ชนิดที่ติดต้งไว้ในดาวเทียม

นัก วิทยาศาสตร์กล่าวว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งในตัวดาวเทียมเกิดขัดข้อง ไม่ยอมส่งกระแสไฟฟ้าจ่ายเลี้ยงอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังทำให้เครื่องควบคุมการทรงตัวไม่ทำงานไปด้วย ทำให้ดาวเทียมสูญเสียการทรงตัวหันหน้าออกจากดวงอาทิตย์ เครื่องควบคุมการทรงตัวสำรองที่มีอยู่ก็ไม่ทำงาน หรือว่าง่าย ๆ คือ ดาวเทียมโซโหนั้นถูกตัดขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมโดยสิ้นเชิง



โอกาสที่จะกู้ดาวเทียมโซโหมูลค่ากว่า
หนึ่งพันล้านดอลลาร์ได้นั้นมีอยู่อย่างริบหรี่ มันลอยเคว้งคว้างอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในห้วงอวกาศ
 หลาย วันต่อมามีคนพบว่าดาวเทียมโซโหไม่ได้เกิดการขัดข้องแต่อย่างใด หากแต่มันถกสั่งให้ยกเลิกปฏิบัติการณ์ที่กระทำอยู่โดย ผู้มีอำนาจในศูนย์การบินอวกาศกอดดาร์ด(Goddard Space Flight Center)

 เดือนกันยายน 1998 ดาวเทียมโซโห ได้ส่งสัญญาณกลับมาที่ศูนย์ควบคุมอีกครั้งนัก
วิทยาศาสตร์ให้เหตุผลว่าดาวเทียมโซโหได้หมุนเอาด้านที่เป็นแผงโซล่าเซลล์เข้าหาดวงอาทิตย์นานพอที่จะเก็บสะสมพลังงานเอาไว้ได้
 ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในดาวเทียมมีกระแสไฟเข้าเลี้ยง และสามารถส่งสัญญาณกลับมายังศูนย์ควบคุมได้

   สิ่ง ที่จะต้องทำต่อไปก็คือจุดระเบิดเครื่องยนต์ไอพ่น เพื่อให้ดาวเทียมหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์และปฏิบัติหน้าที่ของมันต่อไปแต่ ยังมีคำถามคาใจอยู่ว่าทำไมผู้มีอำนาจที่ศูนย์ควบคุมภาคพื้นดินจึงสั่งปิด ระบบทั้งหมดของดาวเทียมเมื่อเดือนมิถุนายน


ในช่วงเวลาไล่ ๆ กันนันเองก็มีภาพยนต์ฮอลลีวูดเกี่ยวกับดาวหางพุ่งเข้าชนโลกออกฉายพร้อมกันถึง เรื่อง นั้นก็คือเรื่อง Deep Impact กับ Armageddon

เรื่องราวในภาพยนต์ทำได้ตื่นเต้น น่ากลัวที่เดียว หลาย คนพยายามเอาข้อมูลต่าง ๆ มาปะติดปะต่อกันแล้วก็สรุปออกมาว่า ดาวเทียมโซโหได้จับภาพดางหางได้และเมื่อคำนวณทิศทางและความเร็วของมันแล้วมี ความเป็นไปได้ที่มันจะพุ่งเข้าสู่โลกในราวเดือนพฤษจิกายน 1998 รู้ ๆกันอยู่ครับว่าการคาดคะเนคราวนั้นผิดพลาดเพราะเราผ่านเดือนดังกล่าวมาแล้ว ด้วยดีไม่มีดางหางพุ่งเข้าชนโลกและนาซ่าก็คงรู้ก่อนด้วยซ้ำไปก็เลยปล่อยให้ ดาวเทียมโซโหทำงานของมันต่อตั้งแต่เดือนตุลาคม 1998
พบวัตถุประหลาด
                   ย้อนกลับไปดูภาพถ่ายดวงอาทิตย์ที่ได้จากดาวเทียมโซโหเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นในภาพ มันมีลักษณะคล้าย ๆ ลูกทรงกลมที่ปรากฏตัวขึ้นใกล้กับเลนส์ของกล้องทำให้เจ้าสิ่งนั้นไม่อยู่ใน ระยะโฟกัส


วันที่ 21 พฤษจิกายน 1998 ดาวเทียมโซโหก็จับภาพวัตถุคล้าย ๆ กันได้อีกครั้ง แต่คราวนี้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง เรียกใครมาดูก็คงพูดเหมือนกันละครับว่ามันเป็นจานบิน!

หรือว่านี่คือสาเหตุที่แท้จริงที่นาซ่าสั่งระงับปฏิบัติการณ์ของดาวเทียมโซโหในช่วงระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน 1998 เมื่อ นำภาพถ่ายหลาย ๆ ภาพที่ถูกส่งมาจากดาวเทียมโซโห ถูกวิเคราะห์อย่างละเอียด พบว่ามีวัตถุแปลกปลอมเกิดขึ้นในภาพ เจ้าวัตถุนั้นสุกสว่างเกินกว่าที่จะเป็นดาว มีรูปร่างที่แตกต่างไปจากดวงดาวและที่สำคัญมันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่แน่นอน บางครั้งก็ปรากฏตัวขึ้น บางครั้งก็หายไปเฉย ๆ แล้วกลับมาปรากฏตัวใหม่ในตำแหน่งที่เปลี่ยนไป

ยานสำรวจดวงอาทิตย์

                  หลังจากที่นาซ่ากู้ดาวเทียมโซโหกลับมาได้ ในเดือนตุลาคม 1998 โซโหได้ส่งภาพดวงอาทิตย์ที่มีภาพวัตถุแปลกปลอมปรากฏอยู่บนมุมล่างซ้ายของภาพ

            ทีแรกผู้ที่ได้เห็นภาพนี้ไม่ได้คิดอะไรมาก พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงรอยขีดข่วนบนฟิลเตอร์หรือบนเลนส์กล้อง แต่ เมื่อนำภาพอื่น ๆ มาเปรียบเทียบดูก็พบว่า เจ้าวัตถุแปลกปลอมนั้นมีอยู่ในภาพบางภาพ ประหนี่งว่ามันปรากฏตัวขึ้นบางวันแล้วก็จากไป และกลับมาปรากฏตัวขึ้นมาอีกในวันต่อมา


เมื่อ พิจารณาดูภาพถ่ายอื่น ๆ ก็พบว่ามีวัตถุแปลกปลอมปรากฏขึ้นในภาพถ่ายหลาย ๆ ภาพ เมื่อนำภาพเหล่านั้นมาขยายจะพบว่าวัตถุเหล่านั้นมีรูปร่างไม่คล้ายจานบินก็ เครื่องบิน มันจึงถูกขนานนามว่า "ยานลาดตระเวนดวงอาทิตย์" (Sun 
Cruiser)

นาซ่าปฏิเสธ
                  นาซ่าปฏิเสธว่าวัตถุประหลาดที่เห็นในภาพต่าง ๆ นั้นเป็นจานบิน แท้ที่จริงแล้วมันคือดาวเคราะห์ที่เพิ่งจะถูกค้นพบบ้าง หรือเป็นข้อบกพร่องของอุปกรณ์ CCD (แผ่นบันทึกภาพระบบดิจิตอล) หรือไม่ก็เป็นฝุ่นผงบนหน้าเลนท์


เหตุผล ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ขัดแย้งต่อความเป็นจริงดาวเคราะห์ย่อมมีวงโคจรไม่หยุดนิ่งอยู่ กับที่ ในขณะที่ภาพที่ได้บางชุดนั้นถ่ายในวันเวลาที่ต่างกันออกไป แต่วัตถุลึกลับนั้นกลับนิ่งอยู่กับที่ ตำแหน่งไม่เปลี่ยนไป

ใน ทางตรงกันข้าม ภาพหลาย ๆ ภาพกลับแสดงให้เห็นว่าวัตถุลึกลับเปลี่ยนตำแหน่งไปจากเดิมในช่วงเวลาแค่ไม่ กี่ชั่วโมง ที่น่าสงสัยมากไปกว่านั้นคือทำไมจึงมีภาพบาง
ภาพหายไปจากแฟ้มของนาซ่า

นาซ่าปกปิด
                  ภาพถ่ายหลาย ๆ ภาพที่แสดงให้เห็นว่ามีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้นนั้นถูกถอดออกจากเว็บไซต์ของนาซ่า ตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายช่วงระหว่างเวลา 16.00 - 20.00 น. ของวันที่ 22 กันยายน 1999 ซึ่งแสดงให้เห็นแสงที่พุ่งออกมาเป็นลำจากดวงอาทิตย์ หรือพุ่งออกมาจากวตถุบางอย่างเข้าสู่ดวง
อาทิตย์


วันที่ กรกฎาคม 2000 ดาว ทียมโซโหจับภาพวัตถุลึกลับพุ่งผ่านหน้ากล้อง วัตถุนี้มีรูปร่างคล้ายลิ่มหรือจานคว่ำ ดูเหมือนมีหางลากยาวออกมาที่ส่วนท้าย แต่มีผู้รู้บาง
ท่านกลับไม่เห็นด้วยที่ว่าเส้นลากยาวที่เห็นนั้นพุ่งออกมาจากส่วนท้าย ในทางตรงกันข้ามมันพุ่งออกมาจากส่วนหัว!
เมื่อ นำภาพถ่ายนั้นมาขยายดูจะเห็นว่า ส่วนที่ลากเป็นทางยาวที่คิดว่าเป็นหางนั้นมีลักษณะเป็นเกลียวและมีขนาดใหญ่ ขึ้นเมื่อออกห่างจากวัตถุลึกลับ


มันเป็นลักษณะการเคลื่อนที่ของโปรตรอนและอิเล็กตรอนที่วิ่งผ่านสนาม
แม่เหล็ก ซึ่งทำให้เกิดลำแสงเอ็กซเรย์ที่ด้านขวาของมันหรือจะกล่าวให้ตรงจุดก็คือเจ้า
วัตถุลึกลับนั้นยิงลำแสงออกมาจากส่วนหัวของมัน

ถ้าข้อสันนิษฐานนี้เป็นความจริงแล้วละก็ อะไรคือ "เป้า" ที่ถูกยิงหรือว่ามีสงครามเกิดขึ้นในอวกาศใกล้ ๆ โลกของเรานี้เอง!


โลกเป็นแค่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง เปรียบได้กับก้อนกรวดเม็ดเดียวในทะเล ยังมีดาวดวงอื่นๆอย่างนับไม่ถ้วนจริงๆ !!!!!!

ที่มา : http://board.postjung.com/514547.html
หนังสือ ร้ายสาระ ตอนหลายสาระ โดย ศิลป์ อิศเรศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น